และไม่รับสัมผัสกับคุณภู กวินท์ นะคะ
ใต้ฟ้าค่ำ
...ที่รัก...
ฉันยังกรำงานหนักมิพักผ่อน
งีบหลับบนเก้าอี้ต่างที่นอน
เปิดหน้าต่าง,เขียนกลอน ต้อนรับดาว
ระหว่างรอรุ่งสางระหว่างฝัน
ทะเลหมอกบอกจันทร์วันนี้หนาว
ห่างอ้อมอกคุณไกลไร้เรื่องราว
ทางช้างเผือกทอดยาวร้าวทุรน
ขับกล่อมเพลงการลา-ก่อนฟ้าสาง
ร้อยรัดหัวใจบางกลางห่าฝน
อดีตที่ร่วงหยดรสสุคนธ์
ก็ร่วงหล่นระร่ำหยดน้ำตา
...
ข้างเก้าอี้มีพนักมุมพักผ่อน
หนังสือกลอนกลาดเกลื่อน-เหมือนคนบ้า
เปิดละครพิงหลังนั่งจิบชา
หอมดอกหญ้า-ไม้แห้งห้อยแต่งเตียง
เคยหนุนตักอ่านกลอนตอนหัวค่ำ
ฉัน, ลึกล้ำฉ่ำรส-สะกดออกเสียง
จึงเสียง “แฮ่ม” หุบยิ้ม ริมระเบียง-
กลบความเงียบ - มองเมียง.. ตะเกียงดาว
พักสายตาเคลิ้มฝันใต้จันทร์หวาน
หิ่งห้อยน้อยโน้มกาลมาขานกล่าว-
ว่า-ราตรีดาวตกนกเจ็บร้าว
สะดุ้งตื่น! เยือกหนาว.. พราวน้ำตา
...
ห้องเย็นเยียบเงียบเหงาเงาม่านไหว
ผ้าคลุมไหล่หล่นลิ่วปลิวคลุมขา
มองผ่านม่านหมอกไปในเวิ้งฟ้า
ระฆังลาก้องดัง..กระทั่งเช้า.
๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๔