ยิ้ม ที่ เปื้อนน้ำตา
ฉีกรอยยิ้ม พริ้มพราย ไว้บนหน้า
เปล่งสำเนียง วาจา ว่าสดใส
สวมชุดงาม นำเพิ่ม แต่งเติมไป
เพริศพริ้งพราว วิไล ในกานดา
มีใครรู้ ใจเจ้า โอ้สาวเอย
เธอชอกช้ำ สุดเปรย จะเอ่ยหา
ในรอยยิ้ม ซ่อนเจ็บ เก็บน้ำตา
ทุกข์ระทม ถมถา แสนอาดูร
ด้วยสองมือ หนึ่งใจ หมายฟันฝ่า
อุปสรรคนานา คราสิ้นสูญ
หวังเพียงพบ พรฟ้า มาเกื้อกูล
โชคจำรูญ หนุนเนื่อง ได้เฟื่องฟู
โอ้..อกเอ๋ย ชีวิต ลิขิตไหน
จะมีไหม ฤดี มิอดสู
มาซับเศร้า น้ำตา คราพร่างพรู
ยืนหยัดอยู่ ไกลห่าง ทางระทม
หน้าเปื้อนยิ้ม ซ่อนเจ็บ ที่เหน็บหนาว
เป็นรอยร้าว ไร้ชื่น มากขื่นขม
สร้างชีวิต ด้วยมาน ที่ซานซม
ปิดเส้นปม ชีวิน ที่ภินท์พัง
ต้องเสแสร้ง แกล้งทำ เป็นฉ่ำชื่น
แท้กล้ำกลืน ยากที่ จะมีหวัง
อยากลับหาย ไกลสิ่ง น่าชิงชัง
แต่สุดยั้ง ภาระปลด สลดดทรวง..
"สุนันยา
รอยแย้มยิ้ม พริ้มเพรา กลบเศร้าหมอง
น้ำตานอง อยู่ใน ใจแสนห่วง
ยิ้มชืดชืด เฝื่อนเฝื่อน เกลื่อนไว้ลวง
ทุกข์ในทรวง เก็บงำ ช้ำระทม
มีใครรู้ ถ้วนทั่ว ในหัวอก
ความสะทก หมกไหม้ ใจขื่นขม
กลืนความเจ็บ เก็บความล้า ซ่อนอารมณ์
ยิ้มเพื่อข่ม ความเหงา ให้เบาบาง
ปลอบตนเอง หลอกผู้อื่น ฝืนสร้างภาพ
เหมือนมีบาป ฉาบทา มิซาสร่าง
ยิ้มเปื้อนหน้า ใจบอบช้ำ เร้นอำพราง
ยิ้มอ้างว้าง สะอื้น คงฝืนยิ้ม