ในโลกนี้มีไหมไม่มีคู่
แล้วอยู่อยู่ก็มาชวนกวนน้ำขุ่น
คนที่หนึ่งพึ่งหมอนข้างข้างร่างคุณ
อีกคนหนุนผ้าห่มผมตรมใจ
แล้วปรึกษาหารือถือเหตุผล
ว่าของตนถูกต้องไม่ผ่องใส
ประเทศนี้แหละหนาประชาธิปไตย
ความเห็นใครอาจผิดคิดทบทวน
ผู้ชายดีมีมากมายกลายไม่เห็น
หรือเราเป็นตัวปัญหาพาลมหวล
ก็คิดเองเออเองเกรงจะรวน
karnkaiชวนมาสมัครรักผู้ชาย
ตั้งแต่เช้าจรดเย็นจะเห็นหน้า
มีสำรับคอยท่าน่ะโฉมฉาย
ถ้าเมื่อยปวดนวดเธอเสนอกาย
ถ้าไม่อายอาบน้ำให้มิใช่อำ
กลางคืนร้อนนอนไม่หลับจะจับเส้น
จะเล่าเล่นเรื่องสนุกให้สุขขำ
ถ้าหนาวเย็นเกินไปไม่ระกำ
ผมจะทำให้คุณอุ่นหนุนอกนอน
เรื่องผ้าห่มหมอนข้างเอาวางทิ้ง
ผมจะกลิ้งจะรัดฟัดแทนหมอน
แล้วแลกเปลี่ยนสัมผัสรักของนักกลอน
ตื่นเอาตอนบ่ายห้า...ลาแล้วงาน
แล้วอยู่อยู่ก็มาชวนกวนน้ำขุ่น
คนที่หนึ่งพึ่งหมอนข้างข้างร่างคุณ
อีกคนหนุนผ้าห่มผมตรมใจ
แล้วปรึกษาหารือถือเหตุผล
ว่าของตนถูกต้องไม่ผ่องใส
ประเทศนี้แหละหนาประชาธิปไตย
ความเห็นใครอาจผิดคิดทบทวน
ผู้ชายดีมีมากมายกลายไม่เห็น
หรือเราเป็นตัวปัญหาพาลมหวล
ก็คิดเองเออเองเกรงจะรวน
karnkaiชวนมาสมัครรักผู้ชาย
ตั้งแต่เช้าจรดเย็นจะเห็นหน้า
มีสำรับคอยท่าน่ะโฉมฉาย
ถ้าเมื่อยปวดนวดเธอเสนอกาย
ถ้าไม่อายอาบน้ำให้มิใช่อำ
กลางคืนร้อนนอนไม่หลับจะจับเส้น
จะเล่าเล่นเรื่องสนุกให้สุขขำ
ถ้าหนาวเย็นเกินไปไม่ระกำ
ผมจะทำให้คุณอุ่นหนุนอกนอน
เรื่องผ้าห่มหมอนข้างเอาวางทิ้ง
ผมจะกลิ้งจะรัดฟัดแทนหมอน
แล้วแลกเปลี่ยนสัมผัสรักของนักกลอน
ตื่นเอาตอนบ่ายห้า...ลาแล้วงาน
สัมผัสรัก นักกลอน อ้อนออดเก่ง
เห็นนักเลงkarnkai ใจสะท้อน
อยากคึกคัก กับพ่อ หนุ่มปอนปอน
คงได้ร้อน นอนผ่าว กล่าวอ้างอิง
ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ไม่เว้นว่าง
คงนอนคราง ตาค้าง อย่างผีสิง
ไหวไหมเธอ อวดโอ้ โถไม่จริง
ไปหลอกลิง เถิดนะ อย่ามาอำ
งานไม่ทำ ตื่นสาย บ่ายห้าโมง
ตะวันโด่ง แม่ผัวคง ตบให้คว่ำ
นอนกินบ้าน กินเมือง เรื่องระยำ
คงชอกช้ำ สามวัน พลันเลิกลา
พันทอง