"ยามฟ้าใสก็ไร้ฝน"
ยามฟ้าครึ้มเมฆมัวสลัวแสง
ดั่งฝนแกล้งแหล่งหล้าฟ้าถล่ม
หาก..พอดีมีสุขไม่ทุกข์ตรม
เกิน..นาล่มจมเน่าเฝ้าคร่ำครวญ
หากยามใดฟ้าใสก็ไร้ฝน
นำกมลคนแจ่มมีแย้มสรวล
ทุกทิศาอ้าอร่ามงามชื่นชวน
จิตรัญจวนนวลนางกลางฤดี
เหมือนดั่งไร้ใดขวางหรือสรวงกั้น
ใจด้นดั้นฝันใฝ่ในฉวี
ลอยรื่นลมชมชอบมอบนารี
จากทางนี้ที่ส่งตรงนงราม
ให้รับรู้คู่ใจกระไรหนอ
จะยังรออยู่ไหมในรักหวาม
ไกลสุดหล้าฟ้าผ่องมองโมงยาม
หวั่นครั่นคร้ามยามคิด..จิตรำพึง.
ดั่งฝนแกล้งแหล่งหล้าฟ้าถล่ม
หาก..พอดีมีสุขไม่ทุกข์ตรม
เกิน..นาล่มจมเน่าเฝ้าคร่ำครวญ
หากยามใดฟ้าใสก็ไร้ฝน
นำกมลคนแจ่มมีแย้มสรวล
ทุกทิศาอ้าอร่ามงามชื่นชวน
จิตรัญจวนนวลนางกลางฤดี
เหมือนดั่งไร้ใดขวางหรือสรวงกั้น
ใจด้นดั้นฝันใฝ่ในฉวี
ลอยรื่นลมชมชอบมอบนารี
จากทางนี้ที่ส่งตรงนงราม
ให้รับรู้คู่ใจกระไรหนอ
จะยังรออยู่ไหมในรักหวาม
ไกลสุดหล้าฟ้าผ่องมองโมงยาม
หวั่นครั่นคร้ามยามคิด..จิตรำพึง.
"บ้านริมโขง"
ที่ส่งถ้อย ไถ่ถาม ด้วยความห่วง
ใจเหนี่ยวหน่วง เพ้อพร่ำ ย้ำคิดถึง
หรือไม่รู้ ทุกช่วงห้วงคำนึง
ยังซ่านซึ้ง หวามไหว อยู่ในทรวง
เลิกรอนร้าว เฝ้าครวญ รัญจวนจิต
ยังคงคิด ติดตรึง คะนึงหวง
อย่าระแวง หวั่นว่า สุดาดวง
จะลืมรวง รังรัก เคยพักพิง
เมื่อฝนซา ฟ้าสวย อำนวยสุข
ปลดเปลื้องทุกข์ ทิ้งไป ในทุกสิ่ง
ล้างโศกศัลย์ เถิดหนา อย่าประวิง
มีรักจริง วางเรียง อยู่เคียงใจ
แม้อยู่ไกลสุดหล้ายังกล้ารัก
คอยท้วงทัก ถักทอ รอฟ้าใส
ระยะทาง ฤๅ กั้น ให้หันไกล
หนึ่งฤทัย ดวงนี้ ..ไม่มีจาง...(สวมรอยจนได้โล่ แล้ว นะเนี่ย )
"สุนันยา"