22 มีนาคม 2553 ; 09:15 น. ฉันยืนมองรูปถ่ายที่ติดอยู่ห้อง ‘ภาพวันแต่งงาน’ใบหน้าของทุกๆคนฉาบทับไปด้วยรอยยิ้ม ความสุข และความอิ่มเอมใจ ‘วันนี้ก็ครบรอบหนึ่งปีแล้วสินะ’ ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆ ยืนซึมซับภาพแห่งความสุขนั้นอยู่นาน ก่อนจะเดินขึ้นสู่ชั้นบนของตัวบ้าน ฉันเดินไปเปิดม่านและหน้าต่าง สายลมที่พัดเข้ามาภายในห้องให้ความรู้สึกเย็นสบาย ฉันมองออกภายนอก แปลงดอกกุหลาบ ที่ดอกของมันเริ่มจะโรยราตามวันและเวลา ฉันเดินมายังเตียงนอนทุกๆอย่างที่เป็นเขายังแจ่มชัดอยู่ภายในหัวของฉัน ..ฉันไม่สามารถลืมมันลงได้แม้แต่วินาทีเดียว ฉันมองไปรอบห้องและก็ต้องสะดุดตากับสมุดข้างหัวเตียง ฉันหยิบมันขึ้นมาอ่านอย่างสงสัย ข้อความถูกเขียนด้วยดินสอดำ ลายมือที่ฉันคุ้นตาเป็นอย่างดี ฉันทรุดตัวนั่งลงบนเตียง ค่อยๆ เปิดมันอ่านทีละหน้า ทีหน้า อย่างช้าๆ...
‘ผมขอโทษนะครับที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ ...ขอโทษนะที่ดูแลคุณได้ไม่ดี ...ขอโทษที่ทำให้คุณต้องทุกข์ใจ ...ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผมไม่แน่ใจว่าผมดีพอที่จะอยู่เคียงข้างคุณรึเปล่า ผมเสียใจทุกครั้งที่เห็นคุณต้องแอบร้องไห้ เสียใจที่ผมมันอ่อนแอเหลือเกิน.. แม้ยืนกอดคุณ ปลอบคุณผมยังไม่สามารถจะทำได้ คุณเสียใจไหมที่เราได้พบกัน เสียใจไหมครับที่ต้องมาจมอยู่กับผม ...แต่ผมไม่เคยเลยสักนิด การที่มีคุณอยู่เคียงข้าง แม้เพียงเสี้ยวนาทีมันกลับทำให้ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ผมรักคุณนะครับ ไม่ว่าจะอีกนานขนาดไหน ผมก็จะยังรักคุณ ยิ้มเถอะนะคนดีของผม ยิ้มให้กับวันพรุ่งนี้ ผมจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ’
“ฉันรักคุณนะคะ ฉัน รัก คุณ”ฉันปิดสมุดลงเบาๆ น้ำใสๆเริ่มไหลออกมาจากตา “ฉันไม่เคยเสียใจเลยนะที่ได้มารู้จักกับคุณ คุณคือคนพิเศษของฉันเสมอ ขอบคุณนะคะสำหรับทุกๆสิ่ง ฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อคุณ อยู่เพื่อคิดถึงคุณเสมอไป”ฉันปาดน้ำตาออกจากแก้ม ยิ้มให้กับรูปของเขา
18:17 น. ฉันนั่งอยู่ที่พื้นทรายเงียบๆ คิดถึงเหตุการณ์ต่างๆ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ฉันพยายามหาคำตอบให้กับตัวเองว่าฉันจะอยู่เพื่ออะไร หากไร้คนที่รัก ...ฉันเฝ้าหาคำตอบจนเกือบลืมว่าการมีชีวิตอยู่เพื่อนคนที่รักเรา มันสำคัญมากขนาดไหน การเสียใจมันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา ถึงอย่างไรฉันก็จะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป อยู่เพื่อใครสักคนที่อาจจะกำลังมองดูฉันอยู่บนฟ้านั้น อยู่เพื่อทำบางสิ่งที่บางคน ไม่มีโอกาสได้ทำ... ฉันไม่รู้ว่าฉันเข้าใจคำว่ารักมากขนาดไหน แต่ฉันมั่นใจว่าฉันสามารถรักใครได้โดยไม่ต้องเข้าใจทฤษฏีและเหตุผล ...ฉันไม่เคยเสียใจหากว่าเรื่องมันจะจบลงแบบนี้ หากย้อนเวลากลับไปได้ฉันก็ยังอยากให้มันเป็นแบบนี้ ได้พบกับเขา และได้รักเขาอย่างหมดหัวใจ ฉันรู้ว่าเมื่อมีพบมันย่อมมีการจากลาเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต ฉันพยายามทำใจให้ชิน ถึงมันจะยากนักในความเป็นจริง แม้เวลาผ่านไปอีกสิบปี ยี่สิบปี หรืออาจจะมากกว่านั้นแต่ความทรงจำของฉันจะยังมีเขาอยู่ด้วยเสมอ ฉันทอดสายตาไปยังน้ำทะเลเบื้องหน้า เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเบาๆ ฉันหยิบมันขึ้นมาดู ‘อธิการบดี’ ฉันโดดสอนมากี่เดือนแล้วนะ หมดเวลาพักร้อนของฉันแล้วสิ ฉันคงต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบเก่า แม้เขาคนนั้นจะขาดหายไป แต่ภายในใจของฉันมันจะมีเพียงแค่เขาเท่านั้น ...ฉันสูดหายใจเข้าไปเต็มปอด เงยหน้ามองท้องยามเย็น 'ยิ้ม' ให้กับใครบางคนที่อยู่บนนั้น...
^^ จบแล้วค่ะ ^^
*พยายามทำให้กระทู้มันน้อยลงแล้วนะคะ แต่จำนวนคำมันเกิน^^
**นี่เป็นการเขียนเรื่องสั้นครั้งแรก หากไม่มากเกินไปขอคำติชม ด้วยได้ไหมคะ ^^
*** เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงเหตุการณ์ที่สมมุติขึ้นมา with love ขอบคุณแรงบันดาลใจที่เคยผ่าน ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ทนอ่านเรื่องเพ้อเจ้อจนจบ ขอบคุณค่ะ ^^