Re: >>>เรื่องสั้น "เวลา ของความทรงจำ"
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 03:12:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: >>>เรื่องสั้น "เวลา ของความทรงจำ"  (อ่าน 8818 ครั้ง)
Design with love ᵔᴥᵔ
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 186
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 288


~Eyerything I See~


« เมื่อ: 28 ธันวาคม 2011, 03:34:PM »

ต่อจากข้างบนค่ะ ^^

28 มกราคม  2553 ; 18:25น. ณ บ้านพักริมหาด บ้านไม้สองชั้นถูกทาด้วยสีฟ้า รับกับสีน้ำทะเลที่สาดซัดอยู่ไม่ไกล ทุกอย่างรอบบ้านดูคุ้นตา ที่นี่เต็มไปด้วยความใส่ใจ ความรัก และความทรงจำที่ดีๆ ฉันค่อยๆประคองร่างของเขาเข้ามาภายในบ้านอย่างทุลักทุเล   เมื่อถึงชั้นสองฉันเอนร่างเขาให้ราบลงกับพื้นเตียง ใบหน้าเขาดูซีดเซียวเล็กน้อย 
“เหนื่อยไหมคะ”มือฉันยังลูบอยู่ที่หน้าของเขาอย่างเป็นห่วง เขาไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ยิ้มบางๆให้ฉันซึ่งก็พอสรุปได้ว่าเหนื่อยนั่นเอง “นี่ก็เย็นมากแล้ว หิวรึยังคะ”  ฉันถามอีกครั้งเมื่อได้เวลาอาหารเย็น “งั้น..เดี๋ยวมานะ”  ไม่รอคำตอบ ฉันกดจมูกลงที่แก้มของเค้า ดึงผ้าห่มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเดินลงข้างล่าง  บ้านหลังนี้ที่ฉันคุยเคยอยู่ทุกซอกทุกมุม ไม่เปลี่ยนเลยสักนิดตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้  ...ฉันเดินเข้าห้องครัวก่อนจะลงมือทำอาหารเย็น

21:24 น. เขาหลับไปแล้ว ฉันเอนตัวล้มลงนอนข้างๆเขา กี่วันมาแล้วนะที่นอนโดยไม่มีเขาเคียงข้าง ฉันโอบแขนไปที่ตัวของเขา ลมหายใจสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเขาคงเข้าสู้ห่วงนินทรา  ฉันคลายอ้อมกอดเล็กน้อยเพื่อให้เขาได้หลับสบายขึ้น “ราตรีสวัสดิ์นะคะ”คำพูดที่ออกมาเพียงแผ่วเบา ฉันปิดเปลือกตา หลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนของวันนี้

29 มกราคม  2553 ; 07:18 น. ภายในห้องยังมืดสนิท ฉันวางชามข้าวต้มลงบนโต๊ะ  เดินเลี่ยงไปเปิดม่านที่มุมห้อง แสงแดดสีทองยามเช้าที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ฉันยืนนิ่งทอดสายตามองไปข้างล่าง กุหลาบหลากหลายสีสันแบ่งบานแข่งกันเต็มสวน ตั้งแต่เขาไม่สบายฉันก็แทบจะไม่ได้มีเวลาหยุดมองอะไรเลย
แค๊ก แค๊ก เสียงไอแหบแห้งของเขาทำให้ฉันละจากภาพตรงหน้า
“ตื่นแล้วเหรอคะ หิวไหม เช็ดตัวก่อนดีไหมคะ” ฉันมองร่างที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง แววตาเขามีแววล้าเล็กน้อย ฉันเพียงแต่ยิ้มให้แววตานั้น
ฉันเดินกลับออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับอุปกรณ์เช็ดตัว  ฉันวางมันลงข้างๆเตียง เริ่มซับที่หน้าเขาเบาๆ เขายกมือขึ้นมาจับที่มือของฉัน
“เหนื่อยไหมครับ ขอโทษนะ” มืออีกข้างของฉัน บีบอีกมือที่วางราบกับเตียง
“อย่าพูดแบบนี้อีกนะ ขอโทษอะไรกัน”ฉันไม่ชอบเลยสักนิด ในเมื่อฉันเต็มใจดูแล จะมาขอโทษทำไมกัน
“ผมรักคุณนะ”คำพูดที่หลุดออกมาจากปากเขา ทำให้ฉันร้อนที่ใบหน้าเล็กน้อย ทั้งที่ได้ฟังประโยคนี้หลายครั้งแต่ทำไมมันยังไม่ชินนะ
“แบบนี้ค่อยน่าฟังหน่อย”ฉันอมยิ้มเล็กน้อย และก้มหน้าเช็ดตัวต่อ ..ความรักเบ่งบานเมื่อไหร่ฉันชักจะไม่แน่ใจ แต่ที่รู้มันกลับเพิ่มมากขึ้นในหัวใจของฉัน  ฉันไม่รู้ว่าเมื่อคนอื่นเขามีความรักกันเห็นโลกเปลี่ยนไปขนาดไหน แต่เท่าที่ฉันรู้‘ความรัก’มันทำให้ฉันมีพลังที่จะหันมองโลก ฉันมีความสุขที่ได้รัก แม้รู้ดีว่าอีกไม่นานนักที่ฉันจะได้ซึมซับความรักเหล่านี้

28 กุมภาพันธ์  2553 ; 13:27 น. ฉันยืนจ้องปฏิทิน รอยขีดกากระบาดทับทำให้ฉันรู้สึกหวั่นไหว ‘ทำไมเวลามันเดินเร็วขนาดนี้นะ ฉันยังไม่พร้อมเลย กับการจากลาที่กำลังจะมาถึง’ทุกๆครั้งที่ขีดทับฉันรู้เสียดายวันเวลา เรื่องเก่าๆจะกลับย้อนมาในหัวฉันเสมอ ความทรงจำที่หวานไหวของเรา ภาพเก่าจะถูกฉายซ้ำๆ ฉันละจากปฏิทินลงมามองที่ชั้นหนังสือด้านล่าง สมุดโน้ตเล่มเล็กๆ ตกลงมาจากชั้นที่วางอยู่ ‘ไดอารี่’กี่ปีแล้วนะที่ไม่มีเวลาเขียน ไม่มีเวลาเปิดอ่าน ฉันหยิบสมุดปกแข็งนั้นขึ้นมาเปิดดู กระดาษภายในสีซีดเซียวบ่งบอกถึงเวลาที่ยาวนานของมัน เปิดๆไปน้ำตามันก็จะไหล ฉันเปิดผ่านมาที่หน้าแรกๆ หัวกระดาษ บอกวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2546  วันแรกที่เราได้พบกัน

8 มิถุนายน พ.ศ. 2546 ; 10:45 น. ฉันยืนอยู่หน้าตึกคณะสถาปัตย์อย่างไม่รู้จะเริ่มไปทางไหนดี ทุกๆอย่างดูแปลกและแตกต่างกับคณะวิทย์ที่ฉันใช้เรียนมาเมื่อสองวันก่อน ฉันก้มหน้าดูตารางเรียนเป็นรอบที่สอง ‘ศิลปะกับการดำรงชีวิต AR1-132’ ฉันถอนหายใจยาวๆ ‘แล้วมันอยู่ตรงไหนเนี่ย’สายตาฉันจับจ้องหาผู้คนที่เดินผ่าน ‘แทบจะไม่มีใคร’ ฉันถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะหยุดสายตาที่ใครคนหนึ่งที่มุมห้อง ฉันรีบตรงดิ่งไปหาเขาทันที ฉันสูดลมหายใจลึกๆพยามรวบรวมความกล้า
“เออ.. ขอโทษนะคะ พอจะรู้ไหม ห้องเออาร์หนึ่ง หนึ่งสามสอง อยู่ตรงไหนคะ” ฉันยืนรอคำตอบจากร่างที่หลับตานิ่งอยู่ตรงหน้า
“..........”เงียบ คือคำตอบที่ฉันได้รับ  ฉันเอื้อมมือไปสะกิดที่ไหล่ของเขาเบาๆพร้อมกับเอ่ยถามประโยคเก่าอีกครั้ง แต่ก็มีเพียงความเงียบเช่นเดิม
“หลับรึป่าวเนี่ย แล้งน้ำใจจริงหัวฟูเอ้ย” ฉันบ่นเล็กน้อยก่อนจะหันหลังกลับ แล้วฉันก็ต้องหน้าชาเมื่อพบว่าห้อง AR1-132 มันอยู่ตรงหน้าฉันนี่เอง ‘รีบวิ่งมาถามจนลืมดูเหรอเนี่ย’ฉันหมุนตัวกลับไปขอโทษบุคคลที่ด่าไปเมื่อกี้ ‘หลับมั้ง  คงไม่ได้ยินที่เราพูด’ ยังไม่ทันที่จะหมุนตัวกลับก็ต้องชงักกับเสียงของเขา
“ก่อนจะถามก็ช่วยดูอะไรให้มันดีๆหน่อยสิครับ ..เอ้อ แล้วที่ด่าเมื่อกี้” ฉันยิ้มเจือนๆให้เขา
“เออ.. ขอโทษค่ะ”เป็นคำที่พูดยากจนรู้สึกฝืดคอ ฉันเข้าไปในห้องเรียน สรุปว่า ‘หน้าแตกยับสินะ’ ฉันถอยหายใจเบาๆก่อนยกมือขึ้นปัดเหงื่อ ...


 เสียงหัวเราดังออกมาเบาๆ ทั้งที่คราบน้ำตาก็ยังไม่ได้เหือดแห้ง ‘เป็นการเจอกันที่น่าประทับใจจริงๆ’ ฉันปิดสมุดไดอารี่ เก็บเข้าที่ชั้นตามเดิม

มีต่ออีกค่ะ(จะจบล่ะ) ^^


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

บูรพาท่าพระจันทร์, ลมหนาว, พิมพ์วาส, จ.รัตติกาล, ♥หทัยกาญจน์♥, Thammada, amika29, กาญจนธโร, รพีกาญจน์

ข้อความนี้ มี 9 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 เมษายน 2012, 06:23:PM โดย Design with love » บันทึกการเข้า

`°.•°•.★* Love Me Love My TK.DEE My Family Forever *★ .•°•.°´

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s