เมื่อกิ่งรักหักรานจากก้านช่อ
เคยละออล้อลมซบซมเหมือน
มิอาจฟื้นฝืนเฝ้าคอยเขาเยือน
จำบิดเบือนเลื่อนลาน้ำตาริน
คงถึงคราราโรยจึงโหยไห้
เสียงจากใจใกล้ขาดสวาทสิ้น
หลงเงาภาพอาบทรวงทุกห้วงจินต์
รอยถวิลกลิ่นเนื้อก็เจือจาง
จึงเดียวดายปลายฟ้ามิกล้าฝัน
แม้หนาวสั่นกลั้นเจ็บเก็บรอยหมาง
จำเจียมตัวเจียมตนให้พ้นทาง
ลืมรักร้างพรางโศกทิ้งโลกย์ลวง
เคยละออล้อลมซบซมเหมือน
มิอาจฟื้นฝืนเฝ้าคอยเขาเยือน
จำบิดเบือนเลื่อนลาน้ำตาริน
คงถึงคราราโรยจึงโหยไห้
เสียงจากใจใกล้ขาดสวาทสิ้น
หลงเงาภาพอาบทรวงทุกห้วงจินต์
รอยถวิลกลิ่นเนื้อก็เจือจาง
จึงเดียวดายปลายฟ้ามิกล้าฝัน
แม้หนาวสั่นกลั้นเจ็บเก็บรอยหมาง
จำเจียมตัวเจียมตนให้พ้นทาง
ลืมรักร้างพรางโศกทิ้งโลกย์ลวง
ถูกตรวนตรึงขึงข่มในหล่มภักดิ์
ยอมจมปลักรักปละริมสระสรวง
ให้โคลนตมถมตายมิหมายทวง
เคยบำบวงทรวงนี้ยังพลีนาง
ยามสิ้นค่าสิ้นคุณจักหนุนนุช
ใสพิศุทธิ์ผุดผ่องหาหมองหมาง
แม้นเจ้าเห็นเช่นพลอยด้อยรางชาง
จักมิร้างจางสวาสดิ์ยอมขาดใจ
เฉกเจ้าดวงดอกรักช่อหักหล่น
ก็กรอบป่นบนเคยเชยไสว
หากระสานซ่านเซ็นกระเด็นไกล
ยังเกลือกไปในท่ามงดงามเนา
ปภัสร์
ยอมจมปลักรักปละริมสระสรวง
ให้โคลนตมถมตายมิหมายทวง
เคยบำบวงทรวงนี้ยังพลีนาง
ยามสิ้นค่าสิ้นคุณจักหนุนนุช
ใสพิศุทธิ์ผุดผ่องหาหมองหมาง
แม้นเจ้าเห็นเช่นพลอยด้อยรางชาง
จักมิร้างจางสวาสดิ์ยอมขาดใจ
เฉกเจ้าดวงดอกรักช่อหักหล่น
ก็กรอบป่นบนเคยเชยไสว
หากระสานซ่านเซ็นกระเด็นไกล
ยังเกลือกไปในท่ามงดงามเนา
ปภัสร์