................................
เมื่อดอกรักทิ้งก้านหล่นลานเกลื่อน
ลมลิ้นเชือนเฉือนทรวงสิ้นห่วงหา
เมื่อหทัยไร้เศษความเมตตา
สิเนหาลาอนาถยอมขาดใจ
ปภัสร์
๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๔
เจ็บจริง.จริง ถูกเหน็บให้เจ็บแสน
คำคนแค้นเชือดเฉือนสะเทือนไหว
กิ่งต้นรักหักคาเพราะว่าใคร
ที่อ่อนไหวโอนเอียงหยุดเคียงรัก
หนาวแสนหนาว...ทางนี้ ซิ..หนาวเหน็บ
ห้วงใจเจ็บเกินเหงาเขาไสผลัก
กลีบละมุนเจ้าเอ๋ย...เคยฟูมฟัก
น้อยใจนักกับน้ำคำกระหน่ำโบย
แม้ปันใจไปอื่นไม่ชื่นสุข
ปล่อยใจคลุกตรมโศกวิโยคโหย
ขอเพียงคำกล่าวลา...ว่าร้างโรย
ช่อรักโปรยดอกคว้าง...ข้างลั่นทม
แซมค่ะ
ครั้งเห่ห้อมกล่อมนางมิจางกรุ่น
หวามละมุนครุ่นครวญรัญจวนฉม
ช่อบุปผาคราผลิแสนภิรมย์
เคยดอมดมสองปรางข้างผกา
ดอกรักบานลานใจไสวสว่าง
โลกก็พร่างกลางชเลเสน่หา
พี่ตระกองน้องแอบแนบอุรา
นงพะงาพาเพริศบรรเจิดจินต์
ต่อต้นรักหักลาญเกินการกอปร
หทัยยอบยับกล่นทนถวิล
เชยลั่นทมชมช้ำน้ำตาริน
ดอกรักสิ้นถิ่นเนาคว้างเหล่าเลือน
ปภัสร์
หวามละมุนครุ่นครวญรัญจวนฉม
ช่อบุปผาคราผลิแสนภิรมย์
เคยดอมดมสองปรางข้างผกา
ดอกรักบานลานใจไสวสว่าง
โลกก็พร่างกลางชเลเสน่หา
พี่ตระกองน้องแอบแนบอุรา
นงพะงาพาเพริศบรรเจิดจินต์
ต่อต้นรักหักลาญเกินการกอปร
หทัยยอบยับกล่นทนถวิล
เชยลั่นทมชมช้ำน้ำตาริน
ดอกรักสิ้นถิ่นเนาคว้างเหล่าเลือน
ปภัสร์