กลอนนั้นงามท่ามอารมณ์ผสมหนาว
สุมใจร้าวให้หลงลอยละห้อยหา
ตาพร่ามัวหลบเร้น...ซ่อนเย็นชา
คอยเบือนหน้าหลบสุนทรีย์ที่ล่อลวง
ใจเจ้าเอยเลยล่วงสู่บ่วงเศร้า
ซ่อนแม้เงาข้างกายคล้ายแหนหวง
รอยอารมณ์ปลิวคว้างร่างกลุงกลวง
เสมือนดวง...จรไกลไร้อาวรณ์
เพียงพบร่างหนึ่งอยู่คู่กาลเก่า
เพียรคอยเฝ้าเสน่หาเหมือนคราก่อน
ครั้งเคยหวานซ่านซ่าหน้าบทกลอน
วันคืนย้อนมาได้ไหมใคร่ปุจฉา.?
.....แบบว่า..ชีวิตมันเศร้า
บรรจงคำนำร้อยถ้อยอักษร
ผ่านกานท์กลอน รำพึง คะนึงหา
เมื่อล่วงกาล วันเคย ดูเฉยชา
เหมือนต้องการ อำลา สิ้นอาลัย
แล้วไฉนไยครวญถึงนวลเจ้า
หรือเพียงเย้า หยอกเอิน เพลินสงสัย
ใครเหมินหมาง พาที วจีไกล
ดังตัดเยื่อ ขาดใย ไร้ปรานี
ในวันนี้ ฤดีน้อง ต้องหมองหม่น
ไม่อาจยลอักษร กลอนบ่งชี้
ช้ำดวงมาน ปวดร้าว เศร้าชีวี
คงไม่มี วันย้อน อ้อนภิรมย์
"สุนันยา"