คิด...ขึ้นมาคราใดหัวใจเหงา
คิด...ถึงเขามีสุขทุกข์ไฉน
คิด...แล้วกลุ้มรุมเร้ามิเข้าใจ
คิด..ทำไมคิดหนักเพราะรักเธอ
ถึง...จะไม่สนใจในตัวฉัน
ถึง...ความฝันคงค้างร้างเสมอ
ถึง...จะเหงาเศร้าตรมขมขื่นเบลอ
ถึง...ละเมอก็ยังคิดจิตพะวง
แต่...แว่วมาว่าเธอเริ่มเพิ่มความรัก
แต่...สักพักคงเปลี่ยนไปกลายเป็นหลง
แต่...ยังดีที่ใจเริ่มได้ปลง
แต่...ฉันคงดูห่างห่างไม่วางตา
เธอ...คงอยู่คู่โลกใหม่ที่ใสสด
เธอ...กำหนดชีวิตเฝ้าคิดหา
เธอ...ใช้ธรรมนำทางสร้างชีวา
เธอ...ประภาคารส่อง...ฉันต้องการ
"Karnkai"
คิด...ถึงเขามีสุขทุกข์ไฉน
คิด...แล้วกลุ้มรุมเร้ามิเข้าใจ
คิด..ทำไมคิดหนักเพราะรักเธอ
ถึง...จะไม่สนใจในตัวฉัน
ถึง...ความฝันคงค้างร้างเสมอ
ถึง...จะเหงาเศร้าตรมขมขื่นเบลอ
ถึง...ละเมอก็ยังคิดจิตพะวง
แต่...แว่วมาว่าเธอเริ่มเพิ่มความรัก
แต่...สักพักคงเปลี่ยนไปกลายเป็นหลง
แต่...ยังดีที่ใจเริ่มได้ปลง
แต่...ฉันคงดูห่างห่างไม่วางตา
เธอ...คงอยู่คู่โลกใหม่ที่ใสสด
เธอ...กำหนดชีวิตเฝ้าคิดหา
เธอ...ใช้ธรรมนำทางสร้างชีวา
เธอ...ประภาคารส่อง...ฉันต้องการ
"Karnkai"
เป็น....แรงใจ ให้เธอ อย่าเผลอหม่น
เป็น....หนึ่งคน ที่รัก สมัครสมาน
เป็น....สายลมพรมไสว ให้เบิกบาน
เป็น....ประภาคาร ส่องทาง ยามร้างรัก
แสง....ไสว วิบวิบ อยู่ลิบฝั่ง
แสง....คงยัง ส่องประกาย ไม่หายหัก
แสง....โชติช่วง มิลวงใคร ให้มาภักดิ์
แสง....นี้จัก อำไพ ในใจเธอ
ส่อง....คนเล เห่กล่อม สู่อ้อมอก
ส่อง....คนบก ที่หวั่นไหว ให้อุ่นเสมอ
ส่อง....ในจิน-ตนาการ อันเลิศเลอ
ส่อง....สม่ำเสมอ อย่าห่วง ว่าทรวงช้ำ
ทาง....ชีวิต แนบเนา เฝ้าโอบเอื้อ
ทาง....ที่เหลือ จะเคียงใจ ให้ชื่นฉ่ำ
ทาง....รักเรา ร่วมครรลอง ท่องลำนำ
ทาง....สุขล้ำ แสนหวาน คู่พี่ Karnkai
ประภาคาร นะคะ