เมื่อเจ้าดอกรักลา
แลดอกรักโรยก้านสะท้านอก
ขวัญเคยยกยอเปี่ยมเทิดเทียมสรวง
ปลิดปลิวห่างคว้างตรมด้วยลมลวง
ร้าวแดดวงห้วงจินต์พานภินท์พัง
เฉกคมมีดกรีดรอยนับร้อยแผล
เปรียบดั่งแส้แช่เกลือเข่นเนื้อหนัง
ปานกรดเพลิงเริงระผลาญประดัง
ราวถูกฝังทั้งเป็นกลางเลนใจ
เมื่อนางแก้วแววขวัญป่นฝันแหลก
มนมิแยกแตกลาญฤๅทานไหว
สายระกำช้ำโศกวิโยคไคล
ทะลักนัยน์ไหลหลั่งถะถั่งปราง
จึ่งพิรี้พิไรร่ำไห้หวน
สะอื้นครวญป่วนหงอยซบรอยหมาง
ความจงรักภักดีเคยพลีนาง
บัดนี้ช่างร้างลุค่าธุลี
เพียงลมโรยโชยผ่านฟุ้งซ่านหม่น
เช่นดั่งคนเขลาขลาดมิอาจหนี
หากฝุ่นผงทรงค่ากว่ารดี
เถิดนรีขยี้ยับให้ดับคา
เมื่อดอกรักทิ้งก้านหล่นลานเกลื่อน
ลมลิ้นเชือนเฉือนทรวงสิ้นห่วงหา
เมื่อหทัยไร้เศษความเมตตา
สิเนหาลาอนาถยอมขาดใจ
ปภัสร์
๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๔