มิเห็นหน้า เธอวันใด ถ่ายไม่ออก
แสนช้ำชอก ซึมเศร้า เอาแต่ตด
กินหมูเห็ด เป็ดไก่ ก็ไร้รส
คอเหี่ยวหด หมดท่า แทบบ้าบอ
หากวันไหน ได้พบ ประสบพักตร์
จะคึกคัก กระหยิ่ม ยิ้มหัวร่อ
คอที่ยับ ยู่ย่น จนหงิกงอ
กลับชูปร๋อ ตั้งชัน ขึ้นทันใด
เธอน่าหม่ำ กว่าส้มตำ ยำรสเด็ด
เหนือผัดเผ็ด แกงป่า ต้มปลาไหล
แม้ปลาร้า ค้างปี มีหนอนไช
กินเท่าไร ไม่ปึ๋งปั๋ง ดังเห็นเธอ
คิดทักทาย สักครั้ง ยังเกรงอยู่
หวั่นโฉมตรู ตอกหน้า ว่าเผยอ
จำข่มจิต หักห้าม ยามเจอะเจอ
จนท้องเฟ้อ เรอเปรี้ยว เสียวไข่ดัน
แอบรักเธอ มาหลายปี มิมีเปลี่ยน
คอยวนเวียน เป็นเงา เฝ้ามิ่งขวัญ
เหมือนมดแดง แฝงมะม่วง หวงกีดกัน
รสหวานมัน อย่างไร ไม่เคยลอง
เวลานี้ นงคราญ แต่งงานแล้ว
ฉันเลยแห้ว ผิดหวัง นั่งหม่นหมอง
สมน้ำหน้า หนอเรา เอาแต่มอง
เธอท้องป่อง ค่อยคิดได้ ไอ้กระบือ
ได้ฟังคำ พร่ำเพ้อ ละเมอพก
ในหัวอก ป้วดร้าว เอาดี้อดิ้อ
ว่าตัวเอง เช่นนั้นเลยเชียวฤๅ
พี่นั้นคือ ชายเก่ง นักเลงกลอน
สะเดาะก่อน เข้าห้อง น้องคืนนั้น
จำได้มั่น ผ้าไม่มี พี่ล่อนจ้อน
อยู่ทั้งคืน ถึงเช้า จึงจากจร
โถงามงอน สุนทรวิทย์ คิดมากไป
รีบแต่งงาน มีผัว กลัวท้องป่อง
ทับไม่ร้อง ท้องไม่รับ กลับผลักไส
แถมยังว่า กากี น้องปวดใจ
จึงรีบแต่ง งานใหม่ กลัวได้อาย
พันทอง
ในหัวอก ป้วดร้าว เอาดี้อดิ้อ
ว่าตัวเอง เช่นนั้นเลยเชียวฤๅ
พี่นั้นคือ ชายเก่ง นักเลงกลอน
สะเดาะก่อน เข้าห้อง น้องคืนนั้น
จำได้มั่น ผ้าไม่มี พี่ล่อนจ้อน
อยู่ทั้งคืน ถึงเช้า จึงจากจร
โถงามงอน สุนทรวิทย์ คิดมากไป
รีบแต่งงาน มีผัว กลัวท้องป่อง
ทับไม่ร้อง ท้องไม่รับ กลับผลักไส
แถมยังว่า กากี น้องปวดใจ
จึงรีบแต่ง งานใหม่ กลัวได้อาย
พันทอง