อันธิกา มืดมน อนธกาล
ณ.สถาน ลุมพินี ที่สงัด
ใต้ฉำฉา วาบหวาม ยามลมพัด
หญิงจรจัด นั่งช้ำ ร่ำโศกา
จากท้องทุ่ง มุ่งมา ตามสามี
ทั่วธานี ผู้เดียว เที่ยวถามหา
มินานนัก รันทด หมดเงินตรา
อนาถา ซอมซ่อ เป็นขอทาน
ค่ำที่ไหน นอนนั่น ขวัญผวา
ถูกบรรดา มารสังคม โทรมพร่าผลาญ
ฝังมลทิน ชายชั่ว ตัวสามานย์
คิดถึงบ้าน แม่,พ่อ คงรอคอย
เมืองสวรรค์ แห่งนี้ ดีแต่ชื่อ
คำเล่าลือ ลืมผนวก พวกคนถ่อย
เดินเร่ร่อน ซอนซอก ทุกตรอกซอย
บ่อยแสนบ่อย โดนเหยียบย่ำ ซ้ำทวี
ขอลาแล้ว ลาลับ กลับบ้านนอก
เข็ดบางกอก คนใจ ร้ายบัดสี
ไม่พานพบ ภัสดา มาเสียที
เปื้อนราคี ย่อยยับ กลับบ้านนา
กลับถึงบ้านแม่พ่อนั้นรออยู่
ท่านคงรู้ความหวังพังแล้วหนา
กระเป๋าเก่าสะพายหลังหลั่งน้ำตา
โผผวากอดทั้งสองร้องรำพัน
คุณพ่อขาแม่ขาสารภาพ
หนูเข็ดหลาบจากทุ่งสู่กรุงนั่น
ความเจริญแสงสีมีอนันต์
วางหลอกกันกับดักมักกาเม
หนูหลงผ่านมารสังคมรุมข่มขืน
สุดกล้ำกลืนหลงคิดจิตหันเห
สิ่งชั่วช้าหลายหลากยากถ่ายเท
ยังหมิ่นเหม่ลาตายล้างอายตน
ในดวงตาพร่าพรางเค้าลางเด่น
เหมือนมองเห็นท่านทั้งสองหน้าหมองหม่น
เป็นห่วงหนูนั้นหนามาเวียนวน
ผิวหน้าย่นพยักหน้าพากลับเรือน
นั่นเจ้าทุยเพื่อนรักแช่ปลักขุ่น
คงไม่คุ้นสภาพข้าว่าไม่เหมือน
เคยร่าเริงยิ้มร่ามาแชเชือน
ไม่บิดเบือนข้าเล่าให้เจ้าฟัง
ชีวิตข้าโดนย่ำยีที่เมืองหลวง
สิ่งแสนหวงสิ้นลับกับความหวัง
จึงดั้นด้นกลับมาว่าตายรัง
เจ้าอย่าชังข้าซี นี่เพื่อนกัน.
นพ
23 ธ.ค.54
ท่านคงรู้ความหวังพังแล้วหนา
กระเป๋าเก่าสะพายหลังหลั่งน้ำตา
โผผวากอดทั้งสองร้องรำพัน
คุณพ่อขาแม่ขาสารภาพ
หนูเข็ดหลาบจากทุ่งสู่กรุงนั่น
ความเจริญแสงสีมีอนันต์
วางหลอกกันกับดักมักกาเม
หนูหลงผ่านมารสังคมรุมข่มขืน
สุดกล้ำกลืนหลงคิดจิตหันเห
สิ่งชั่วช้าหลายหลากยากถ่ายเท
ยังหมิ่นเหม่ลาตายล้างอายตน
ในดวงตาพร่าพรางเค้าลางเด่น
เหมือนมองเห็นท่านทั้งสองหน้าหมองหม่น
เป็นห่วงหนูนั้นหนามาเวียนวน
ผิวหน้าย่นพยักหน้าพากลับเรือน
นั่นเจ้าทุยเพื่อนรักแช่ปลักขุ่น
คงไม่คุ้นสภาพข้าว่าไม่เหมือน
เคยร่าเริงยิ้มร่ามาแชเชือน
ไม่บิดเบือนข้าเล่าให้เจ้าฟัง
ชีวิตข้าโดนย่ำยีที่เมืองหลวง
สิ่งแสนหวงสิ้นลับกับความหวัง
จึงดั้นด้นกลับมาว่าตายรัง
เจ้าอย่าชังข้าซี นี่เพื่อนกัน.
นพ
23 ธ.ค.54