อยากจะเขียนเป็นคำเพื่อนำสื่อ
ว่าใดคือสิ่งหวังตั้งเป้าหมาย
อยากจะวาดเป็นโครงร่างต่างบรรยาย
ว่าสุดท้ายคืออะไรใจต้องการ
แต่ติดขัดชีวิตจริงยิ่งกว่าหนัง
หลายคนยังบอกน้ำเน่าเฝ้าสงสาร
นางเอกรวยพระเอกจนปนนิทาน
แต่ก็พานพบคู่ได้อยู่ครอง
ชีวิตเราน้ำเน่าเก่ากว่านี้
ชีพยังมีเพราะหายใจได้สนอง
หากอากาศได้ซื้อหรือถือครอง
ร่างกายต้องแตกดับกับความจน
ทั้งอยากได้อยากเป็นเช่นใครอื่น
ทั้งอยากชื่นอยากสมไม่ตรมหม่น
อยากทำได้ดั่งใจไม่กังวล
แต่อับจนปัญญาหาทางเดิน
ไม่สมหวังดั่งวาดปรารถนา
ไร้ราคานำเสนอดูเก้อเขิน
คนบุญน้อยแลแขชะแง้เกิน
ยามก้าวเดินไม่กล้าสบตาใคร
ถึงมีรักก็หวั่นว่าวันหนึ่ง
อาจต้องถึง วันร้าง จางสดใส
อาจต้องเจ็บต้องปวดรวดร้าวใจ
เพราะความไม่มีพร้อมต้องยอมทน
จึงอยากอยู่เดี่ยวโดดรับโทษบ้าง
โทษเพราะวางชีวิตผิดสับสน
โทษเพราะรักที่ผ่านผลาญใจตน
โทษเพราะคนอย่างเรา...ไม่เท่าใคร.
ว่าใดคือสิ่งหวังตั้งเป้าหมาย
อยากจะวาดเป็นโครงร่างต่างบรรยาย
ว่าสุดท้ายคืออะไรใจต้องการ
แต่ติดขัดชีวิตจริงยิ่งกว่าหนัง
หลายคนยังบอกน้ำเน่าเฝ้าสงสาร
นางเอกรวยพระเอกจนปนนิทาน
แต่ก็พานพบคู่ได้อยู่ครอง
ชีวิตเราน้ำเน่าเก่ากว่านี้
ชีพยังมีเพราะหายใจได้สนอง
หากอากาศได้ซื้อหรือถือครอง
ร่างกายต้องแตกดับกับความจน
ทั้งอยากได้อยากเป็นเช่นใครอื่น
ทั้งอยากชื่นอยากสมไม่ตรมหม่น
อยากทำได้ดั่งใจไม่กังวล
แต่อับจนปัญญาหาทางเดิน
ไม่สมหวังดั่งวาดปรารถนา
ไร้ราคานำเสนอดูเก้อเขิน
คนบุญน้อยแลแขชะแง้เกิน
ยามก้าวเดินไม่กล้าสบตาใคร
ถึงมีรักก็หวั่นว่าวันหนึ่ง
อาจต้องถึง วันร้าง จางสดใส
อาจต้องเจ็บต้องปวดรวดร้าวใจ
เพราะความไม่มีพร้อมต้องยอมทน
จึงอยากอยู่เดี่ยวโดดรับโทษบ้าง
โทษเพราะวางชีวิตผิดสับสน
โทษเพราะรักที่ผ่านผลาญใจตน
โทษเพราะคนอย่างเรา...ไม่เท่าใคร.
บ้านริมโขง
เพียงมาขีดเขียนคำนำอักษร
เพียงมาแต่งแต้มกลอนย้อนสวยใส
เพียงมาบอกหยอกล้อพ่อดวงใจ
เพียงมาชิดสนิทใกล้ไว้เคียงกัน
เพียงมาหวงช่วงขณะปะทะจิต
เพียงมาขานกานท์ลิขิตสนิทฝัน
เพียงมาร้อยสร้อยทองของกำนัล
เพียงมาครอบครองนั้น...ฉันและเธอ
ว่าความรักหนัก-เบาทึมเทาหม่น
ก่อความสุข-ทุกข์ล้นปะปนเสมอ
มีขาว-ดำคำขานเคยอ่านเจอ
ไม่มีใครไหนเพ้อเผลอแค่...คบ
ต่างร่วมเรียงเคียงปักเสาหลักใหญ่
ประนีประนอมพร้อมใจให้สงบ
หนึ่งความฝันนั้นนานผ่านการรบ
สงครามศึกนึกหลบกลบเพราะรัก
หทัยกาญจน์
๒๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔