เพียงลมพัดผ่าน
ลมสงบสงัดพัดเงียบ-เงียบ
ใบไม้ ไร้ระเบียบ ยะเยียบสั่น
น้ำตาลเข้ม,เหลือง,เขียว กิ่งเดียวกัน
โซ่ชิงช้ายึดพัน นั้นเก่าชรา
สะสมเรื่องราวเก่า เท้าเตะพื้น-
หัวเราะรื่นเหินหยอกกับหมอกหนา
ราวติดปีกบินโฉบเอื้อมโอบฟ้า
เด็ดปุยฝ้ายเมฆามาลิ้มรส
...
เพ่งพินิจดวงใจในดวงตา
แวววาบไหวฉายมายิ้มปรากฏ
ลอบหลบตา.มองข้ามตามฝูงมด
แววประชดมองหยิ่งยังจริงใจ
หยาดรอยยิ้มเรียบง่ายได้หยาดมา
สู่ความจำชรา – หลงคว้าไขว่
คราช่อรักหักตกโลกทั้งใบ-
เหลือสิ่งใดให้คว้าเอามาครอง
ตัดสายใยทิ้งขว้างกลางสนาม
เหลือแค่ความรวดร้าวเราทั้งสอง
ดวงตะวันบ่ายหน้าไม่มามอง
จะต่อรองชะตาต่อฟ้าใด?
เมื่อคุณมีอีกใครในอ้อมกอด
ฉันควรถอดใจเจ็บเก็บใช่ไหม?
รับรู้ เฝ้าดูอย่าง คนห่างไกล
ซุกน้ำเนตรซ่อนไว้ในส่วนลึก
ดำเนินชีวิตไปในแดดบ่าย
วนเวียนว่ายลอบมองจากช่องตึก
ขับเคลื่อนฝันเดียวดายในสำนึก
แล้วแอบทึกทักปลูกความผูกพัน
เป็นเพียงลมพัดผ่านวันฝนแรก
มิกล้าแทรกเอาใจไปขีดคั่น
คืนทบคืนทบฝันวันต่อวัน
เกี่ยวกับฉันคงจบลบความซึ้ง
รั้วหน้าบ้านไร้เงาเท้าย่างเหยียบ
มีความเงียบตีปีกอยู่อีกครึ่ง
ชิงช้าว่างแกว่งไกวในคำนึง
สัมผัสถึงเยือกหนาว ณ ราวฟ้า
เพียงลมพัด หวิวใจ – ใบไม้สั่น
เข้าใจฉันกว่าใครในโลกหล้า
มองใบไม้โน้มกิ่งโล้ชิงช้า
ปาดน้ำตาหยดพร่างอย่างทารก.
ลมสงบสงัดพัดเงียบ-เงียบ
ใบไม้ ไร้ระเบียบ ยะเยียบสั่น
น้ำตาลเข้ม,เหลือง,เขียว กิ่งเดียวกัน
โซ่ชิงช้ายึดพัน นั้นเก่าชรา
สะสมเรื่องราวเก่า เท้าเตะพื้น-
หัวเราะรื่นเหินหยอกกับหมอกหนา
ราวติดปีกบินโฉบเอื้อมโอบฟ้า
เด็ดปุยฝ้ายเมฆามาลิ้มรส
...
เพ่งพินิจดวงใจในดวงตา
แวววาบไหวฉายมายิ้มปรากฏ
ลอบหลบตา.มองข้ามตามฝูงมด
แววประชดมองหยิ่งยังจริงใจ
หยาดรอยยิ้มเรียบง่ายได้หยาดมา
สู่ความจำชรา – หลงคว้าไขว่
คราช่อรักหักตกโลกทั้งใบ-
เหลือสิ่งใดให้คว้าเอามาครอง
ตัดสายใยทิ้งขว้างกลางสนาม
เหลือแค่ความรวดร้าวเราทั้งสอง
ดวงตะวันบ่ายหน้าไม่มามอง
จะต่อรองชะตาต่อฟ้าใด?
เมื่อคุณมีอีกใครในอ้อมกอด
ฉันควรถอดใจเจ็บเก็บใช่ไหม?
รับรู้ เฝ้าดูอย่าง คนห่างไกล
ซุกน้ำเนตรซ่อนไว้ในส่วนลึก
ดำเนินชีวิตไปในแดดบ่าย
วนเวียนว่ายลอบมองจากช่องตึก
ขับเคลื่อนฝันเดียวดายในสำนึก
แล้วแอบทึกทักปลูกความผูกพัน
เป็นเพียงลมพัดผ่านวันฝนแรก
มิกล้าแทรกเอาใจไปขีดคั่น
คืนทบคืนทบฝันวันต่อวัน
เกี่ยวกับฉันคงจบลบความซึ้ง
รั้วหน้าบ้านไร้เงาเท้าย่างเหยียบ
มีความเงียบตีปีกอยู่อีกครึ่ง
ชิงช้าว่างแกว่งไกวในคำนึง
สัมผัสถึงเยือกหนาว ณ ราวฟ้า
เพียงลมพัด หวิวใจ – ใบไม้สั่น
เข้าใจฉันกว่าใครในโลกหล้า
มองใบไม้โน้มกิ่งโล้ชิงช้า
ปาดน้ำตาหยดพร่างอย่างทารก.
ไฟล์แนบถูกแก้ไขโดยผู้ดูแลระบบ