คนเขียนกลอนอ่อนไหวให้นั่งนึก
คนเขียนกลอนตกผลึกนึกหน่วงหนัก
คนเขียนกลอนเขียนวางอย่างไร้รัก
คนเขียนกลอนจึงหักพักเรื่องคุย
ใช่จะไม่ใส่ใจในห่วงหา
ใช่จะไม่นำพาผ่าฉลุย
ใช่จะไม่อาทรวอนอยากลุย
ใช่จะให้หลุดลุ่ยดุ่ยเดี่ยวเดิน
ได้เพื่อนหนึ่งซึ้งนักปักใจมั่น
เฝ้าใฝ่ฝันแนบถนัดไม่ขัดเขิน
หากรู้ใจในกันอย่าหันเมิน
เรามาเดินร่วมทางวางไมตรี
ในหัวใจพร้อมรักสลักมั่น
สื่อถึงกันด้วยจิตวิศิษฏ์ศรี
เกินกว่าใครจะซึ้งถึงอารี
ที่น้องพี่หยิบยื่นฟื้นสัมพันธ์
อย่ามองหมางยามห่างต่างหน้าที่
ก่อนยังมียังสร้างทางสุขสันต์
อาจเครียดบ้างยุ่งบ้างในบางวัน
งานเสร็จพลันหันมาหาอย่างเดิม
คนเขียนกลอนอ่อนไหวในภาษา
จับเอามาเพียงเนื้อเพื่อต่อเสริม
อย่าหลงคำบางคำช้ำใจเติม
รักจะเพิ่มหากรู้...ผู้เขียนกลอน.
คนเขียนกลอนตกผลึกนึกหน่วงหนัก
คนเขียนกลอนเขียนวางอย่างไร้รัก
คนเขียนกลอนจึงหักพักเรื่องคุย
ใช่จะไม่ใส่ใจในห่วงหา
ใช่จะไม่นำพาผ่าฉลุย
ใช่จะไม่อาทรวอนอยากลุย
ใช่จะให้หลุดลุ่ยดุ่ยเดี่ยวเดิน
ได้เพื่อนหนึ่งซึ้งนักปักใจมั่น
เฝ้าใฝ่ฝันแนบถนัดไม่ขัดเขิน
หากรู้ใจในกันอย่าหันเมิน
เรามาเดินร่วมทางวางไมตรี
ในหัวใจพร้อมรักสลักมั่น
สื่อถึงกันด้วยจิตวิศิษฏ์ศรี
เกินกว่าใครจะซึ้งถึงอารี
ที่น้องพี่หยิบยื่นฟื้นสัมพันธ์
อย่ามองหมางยามห่างต่างหน้าที่
ก่อนยังมียังสร้างทางสุขสันต์
อาจเครียดบ้างยุ่งบ้างในบางวัน
งานเสร็จพลันหันมาหาอย่างเดิม
คนเขียนกลอนอ่อนไหวในภาษา
จับเอามาเพียงเนื้อเพื่อต่อเสริม
อย่าหลงคำบางคำช้ำใจเติม
รักจะเพิ่มหากรู้...ผู้เขียนกลอน.
"บ้านริมโขง"