ยามพิรุณร่วงโปรยโรยผืนหล้า
หมู่เมฆาหลั่งรินผินสายฝน
ชุ่มพื้นบนปฐพี ณ บัดดล
ฟ้าคำรนดั่งลั้นสั่นสะเทือน
เด็กเล็กเล็กใกล้ชานบ้านหลั่งเก่า
ดูซึมเศร้าร้างจิตพิศเสมือน
อยู่ในความทรงจำซ้ำลางเลือน
เหมือนจะเตือนใจจำพร่ำเพ้อไป
เรือกระดาษลอยน้ำสองลำร่อน
เด็กเฝ้านอน พลางดูอยู่ ไม่คลาดไหว
เรือกระดาษสองลำซ้ำลอยไกล
จึงพับใหม่ปล่อยไปในสายชล
เรือสองลำจมไปในสายน้ำ
จากลอยซ้ำจมลงตรงต้นสน
ติดกิ่งไม้จมดิ่งประวิงวน
เปรียบดั่งคนเกิดมาคราดับเวียน
หมู่เมฆาหลั่งรินผินสายฝน
ชุ่มพื้นบนปฐพี ณ บัดดล
ฟ้าคำรนดั่งลั้นสั่นสะเทือน
เด็กเล็กเล็กใกล้ชานบ้านหลั่งเก่า
ดูซึมเศร้าร้างจิตพิศเสมือน
อยู่ในความทรงจำซ้ำลางเลือน
เหมือนจะเตือนใจจำพร่ำเพ้อไป
เรือกระดาษลอยน้ำสองลำร่อน
เด็กเฝ้านอน พลางดูอยู่ ไม่คลาดไหว
เรือกระดาษสองลำซ้ำลอยไกล
จึงพับใหม่ปล่อยไปในสายชล
เรือสองลำจมไปในสายน้ำ
จากลอยซ้ำจมลงตรงต้นสน
ติดกิ่งไม้จมดิ่งประวิงวน
เปรียบดั่งคนเกิดมาคราดับเวียน