ต้องทนทุรนทุราย ประหนึ่งจะตาย
มลายหายไปบัดดล
ฟ้าลิขิตชะตาคน กลืนกล้ำจำทน
มิเหลือร่วงโรยเรี่ยวแรง
ประหนึ่งคมมีดทิ่มแทง จะฆ่าจะแกง
ประหารด้วยคำอำลา
หยดหยาดที่ร่วงลงมา ล้วนหยดน้ำตา
ทาทาบอาบลงตรงใจ
ทรหดอดทนเพียงไหน หากร้างห่างไกล
ล้วนเจ็บหัวใจเกินกลืน
............
หากว่าฟ้า ลิขิตมาให้ข้าช้ำ
ร้าวระกำ ร้ายเท่าใดจำใจฝืน
คำว่าลา ผลักข้า..ล้มทั้งยืน
จะลุกขึ้นอย่างไร .. ไม่มีแรง..
....
เทโพ
มลายหายไปบัดดล
ฟ้าลิขิตชะตาคน กลืนกล้ำจำทน
มิเหลือร่วงโรยเรี่ยวแรง
ประหนึ่งคมมีดทิ่มแทง จะฆ่าจะแกง
ประหารด้วยคำอำลา
หยดหยาดที่ร่วงลงมา ล้วนหยดน้ำตา
ทาทาบอาบลงตรงใจ
ทรหดอดทนเพียงไหน หากร้างห่างไกล
ล้วนเจ็บหัวใจเกินกลืน
............
หากว่าฟ้า ลิขิตมาให้ข้าช้ำ
ร้าวระกำ ร้ายเท่าใดจำใจฝืน
คำว่าลา ผลักข้า..ล้มทั้งยืน
จะลุกขึ้นอย่างไร .. ไม่มีแรง..
....
เทโพ
ห่างเหินเดินหายตายจาก มรสุมรุมฝาก
ย่อยยับอับปางร้างลา
ประจักษ์รักเศร้าเหงามา ยอมพลีชีวา
สุดท้ายพ่ายพังดั่งลม
ความฝันวันหวานพานขม เหงาในอารมณ์
ว้าเหว่เร่คว้างกลางใจ
คิดถึงจึงถามยามไกล ว่าเป็นเช่นไร
ทุกข์, เศร้า เหงาชื่นคืนนี้
……………
จากวันวานพานดับไปกับโศก
วิปโยคโลกหมองครองความเหงา
เมื่อเอ่ยถามยามเย็นไม่เห็นเงา
ได้แต่เฝ้าขื่นขมระทมนัก!.
............
ทา มะดำ