***“ไอดิน กลิ่นดอกหญ้า”***
เย็นสายลม พรมพลิ้ว ทิวไม้ไหว
โอนเอนไป กลางหมอก ระลอกขาว
หยดน้ำค้าง งามเด่น เช่นแสงดาว
ประกายพราว ราวเพชร เม็ดมณี
รัตติกาล อำลา เปิดฟ้าใหม่
แลรำไร เรืองเรื่อ เจือแสงสี
หมอกยามเช้า แต้มแต่ง แสงระวี
เขียวขจี พฤกษ์งาม อร่ามตา
ยินสำเนียง เสียงนก วิหคแว่ว
ดังเจื้อยแจ้ว กล่อมขวัญ ให้หรรษา
หยอกเย้ากัน เป็นหมู่ อยู่ปลายนา
รับนภา งามฤกษ์ เบิกตะวัน
หอมละมัย ไอดิน กลิ่นดอกหญ้า
แถวทิวทุ่ง งามตา พาสุขสันต์
น้ำค้างพรม ลมพลอด ยอดเรียวพัน
เกินจะพร่ำ จำนรรจ์ ..สวรรค์ใด...
“สุนันยา”
ครั้นยามรุ่ง มุ่งมา กาไก่นก
บินโผผก ขยับอยู่ ดูไหวไหว
สาลิกา ผวาปีก หลีกเหยี่ยวไพร
เสียงสับสน ปนไป ทั้งไก่กา
เห็นถ้วนทั่ว วัวควาย ออกชายทุ่ง
เป็นหมู่มุ่ง ทุ่งเถิน เพียรเดินหา
เหยียบพฤกษ์พง ลงลู่ สู่หญ้าคา
หาภักษา พร้อมเพรียง อยู่เรียงราย
ธรรมชาติ วาดสรร สวรรค์เปรียบ
ล้วนหรูเรียบ เฉียบเลิศ ดูเฉิดฉาย
เย้ยไยไพ ให้มนุษย์ จนสุดอาย
ชอบทำลาย กรายกล้ำ พร้อมซ้ำเติม.../
บูรพาท่าพระจันทร์
บินโผผก ขยับอยู่ ดูไหวไหว
สาลิกา ผวาปีก หลีกเหยี่ยวไพร
เสียงสับสน ปนไป ทั้งไก่กา
เห็นถ้วนทั่ว วัวควาย ออกชายทุ่ง
เป็นหมู่มุ่ง ทุ่งเถิน เพียรเดินหา
เหยียบพฤกษ์พง ลงลู่ สู่หญ้าคา
หาภักษา พร้อมเพรียง อยู่เรียงราย
ธรรมชาติ วาดสรร สวรรค์เปรียบ
ล้วนหรูเรียบ เฉียบเลิศ ดูเฉิดฉาย
เย้ยไยไพ ให้มนุษย์ จนสุดอาย
ชอบทำลาย กรายกล้ำ พร้อมซ้ำเติม.../
บูรพาท่าพระจันทร์