ยามราตรีวิธูดูอร่าม
กลางฟ้างามท่ามอร่ามทรามเฉลย
งามงดกว่าที่ข้าจะภิเปรย
หรือจะเผยเชยคำพร่ำอวดยอ
แต่วันนี้เหตุใดไม่มาแจ้ง
ดวงแถงแสร้งเร้นเพ็ญหานหนอ
เฝ้าดูเพ็ญเย็นอร่ามท่ามการรอ
เสียงสะลอ้ออึ้งผึ่งตามลม
รอแสนนนานเดือนลับแสนจับเศร้า
ตัวหงอยเหงาดารามิสู่สม
เธอจากไปไร้คู่ไม่ภิรมย์
จึงต้องตรมขมขื่นไม่ชื่นชีวี
โอ้หละหนอเจ้าโสมประโลมจิต
ข้าพินิจ คิดคำ เลิศล้ำนี้
จากห้วงใจไปสู่ที่อยู่ฤดี
ว่าข้ามีเพยงเจ้าคลอเคล้ทรวง
วันนี้ไยเจ้าถึงจึงมืดดับ
มิแวบวับผ่องแสงแจงความหวง
ฤา ว่ารักประจักษ์ที่หักลวง
โอ้เจ้าดวงจันทรามาลับแล
เศร้าโศกยิ่งราตรีนี้หม่นหมอง
ความเรืองรองผุดผ่องพ้องจันทร์แข
ยามไร้คู่ดูเศร้าเร้าดวงแด
จึงต้องแปรแถงแจ้งหายลา
กลางฟ้างามท่ามอร่ามทรามเฉลย
งามงดกว่าที่ข้าจะภิเปรย
หรือจะเผยเชยคำพร่ำอวดยอ
แต่วันนี้เหตุใดไม่มาแจ้ง
ดวงแถงแสร้งเร้นเพ็ญหานหนอ
เฝ้าดูเพ็ญเย็นอร่ามท่ามการรอ
เสียงสะลอ้ออึ้งผึ่งตามลม
รอแสนนนานเดือนลับแสนจับเศร้า
ตัวหงอยเหงาดารามิสู่สม
เธอจากไปไร้คู่ไม่ภิรมย์
จึงต้องตรมขมขื่นไม่ชื่นชีวี
โอ้หละหนอเจ้าโสมประโลมจิต
ข้าพินิจ คิดคำ เลิศล้ำนี้
จากห้วงใจไปสู่ที่อยู่ฤดี
ว่าข้ามีเพยงเจ้าคลอเคล้ทรวง
วันนี้ไยเจ้าถึงจึงมืดดับ
มิแวบวับผ่องแสงแจงความหวง
ฤา ว่ารักประจักษ์ที่หักลวง
โอ้เจ้าดวงจันทรามาลับแล
เศร้าโศกยิ่งราตรีนี้หม่นหมอง
ความเรืองรองผุดผ่องพ้องจันทร์แข
ยามไร้คู่ดูเศร้าเร้าดวงแด
จึงต้องแปรแถงแจ้งหายลา