เหลาดินสอ จ่อจุด สมุดขาว
เล่าเรื่องราว กลอนกานท์ เริ่มงานเขียน
ระยิบระยับ พับตา หน้าแสงเทียน
เงาวนเวียน เป็นปื้น เลื่อนขึ้นลง
แขวนข้างฝา นาฬิกา เวลาทุ่ม
ยินประชุม ทำนอง สวดของสงฆ์
เคาะระฆัง กังวาน สะท้านดง
จิ้งหรีดส่ง เสียงร้อง ก้องพนา
ไฟสุมฟาง ข้างคืน เลยดื่นดึก
ดุ้นฟืนสึก ถ่านเทา เถ้าถมท่า
น้ำค้างย้อย ปรอยปราย จากชายคา
แวบ.นกป่า ร่าเริง ล้อเพลิงแดง
หอนโหยหวน ทวน.ทับ รับร้องทอด
เสียงเส่าสอด มอ.มอ วัวรอแหล่ง
ฟ้ามืดมิด จิตวิญญาณ หาญแสดง
แว่วสาปแช่ง เสือลาก.รีบจากไป
เย็นยะเยือก เกลือกกาย สายลมล่อง
มือตระกอง อุ่นอก วิโยคไหว
ไก่ขับขัน กระชั้นเสียง สำเนียงไกล
หริ่งเรไร สรรพสัตว์ สงัดพลัน
ยังคงนั่ง หน้าคอม จ่อมจิ้มศัพท์
หาวปะหงับ ตาลาย มือไม้สั่น
รีบเสร็จก่อน อ่อนแรง.แสงตะวัน
คนชอบฝัน อยู่เดียว เปลี่ยวใจกาย
รพีกาญจน์ 59
มีเวลา ชั่วครู่ ดูไม่มาก
ว่างเว้นจาก การสอน เมื่อตอนสาย
เข้ามาอ่าน กลอนรพี ท่านพี่ชาย
รีบตะกาย ต่อคำ ลำนำกลอน
ยังไม่เสร็จ มรูฟไว้ ต้องไปต่อ
เด็กมารอ หน้าเง้า ให้เราสอน
ทำหน้าที่ ก่อนหนา จำลาจร
พักไว้ก่อน แป๊บเดียว ประเดี๋ยวมา
เสร็จจากงาน ประจำ ทำหน้าที่
จรลี เปิดหน้าจอ มารอท่า
ก้มหน้าจิ้ม พิมท์ซ้ำ ไม่นำพา
สุขอุรา เหลือเกิน จำเริญใจ
......ยากูซ่า......
ว่างเว้นจาก การสอน เมื่อตอนสาย
เข้ามาอ่าน กลอนรพี ท่านพี่ชาย
รีบตะกาย ต่อคำ ลำนำกลอน
ยังไม่เสร็จ มรูฟไว้ ต้องไปต่อ
เด็กมารอ หน้าเง้า ให้เราสอน
ทำหน้าที่ ก่อนหนา จำลาจร
พักไว้ก่อน แป๊บเดียว ประเดี๋ยวมา
เสร็จจากงาน ประจำ ทำหน้าที่
จรลี เปิดหน้าจอ มารอท่า
ก้มหน้าจิ้ม พิมท์ซ้ำ ไม่นำพา
สุขอุรา เหลือเกิน จำเริญใจ
......ยากูซ่า......