หลับตายิ้ม....
หลับตายิ้มริมฝั่งยังขีดเขียน
ความเดียวดายคล้ายเหรียญพลิกเวียนเศร้า
ความเปล่าเปลี่ยวเหลียวหลังดังเช่นเงา
ความเหว้หว้าว่าเหงาเข้ามาแทน
ความดิ้นร้นจนกล่าวสาวคำตอบ
ความผิดหวังพังปลอบชอบสุดแสน
ความอกหักรักช้ำจำไร้แฟน
ความพลั้งพลาดขาดแคลนแก่นความจริง
ความทุกข์ท้อทรมานขาดเรื่องรัก
ความระกำช้ำหนักพักบางสิ่ง
ความจำยอมพร้อมฟังยังแอบอิง
ความเดียวดายคล้ายสิ่งวิ่งเคียงกัน
ความโศกเศร้าเล่าเรื่องเฟื่องฟุ้งผ่าน
ความระทมข่มกานท์สาส์นสวรรค์
ความโดนเด่นเช่นแสงแจ้งจากจันทร์
ความปะทะตะวันฉันขอเคียง
หทัยกาญจน์
๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔
ยิ้ม..ในทรวงห่วงถึงรำพึงฝาก
ยิ้มคราพรากจากกันจำนรรจ์เสียง
ยิ้มเกลื่อนหน้าพาชื่นรื่นร้อยเรียง
ยิ้มหวังเคียงเพียงหมายคล้ายฝันไป
จึง..เพียงยิ้มพริ้มรับคำขับขาน
จึงเพียงสานสู่สองมองหวั่นไหว
จึงเพียงเอื้อเผื่อพลาดหากบาดใจ
จึงเพียงใครสู่สมนิยมคำ
ไหว..หวั่นตนทนหมองยามต้องจาก
ไหวหวั่นมากหากรักจักถลำ
ไหวหวั่นจนทนท้อรอระกำ
ไหวหวั่นทำจำลาน้ำตานอง
ใจ..เจ้าเอยไฉนเลยไม่เคยชื่น
ใจขมขื่นกลืนช้ำระกำหมอง
ใจรอคอยหงอยเหงายังเฝ้าปอง
ใจร่ำร้องครองคู่หวังอยู่เคียง
จึง..ตั้งตาพาฝันมั่นเสมอ
จึงพร่ำเพ้อเธอฉันรำพันเสียง
จึงรอคอยรอยทางวางมองเมียง
จึงร้อยเรียงสำเนียงกานท์ผสานใจ
เปลี่ยน..เวียนวนจนหวั่นวันคอยคู่
เปลี่ยนฤดูสู่ฤดีที่หวามไหว
เปลี่ยนคืนวันผันผ่านม่านวิไล
เปลี่ยนอย่างไรใจยังเปลี่ยว..แสนเดียวดาย.
ยิ้มคราพรากจากกันจำนรรจ์เสียง
ยิ้มเกลื่อนหน้าพาชื่นรื่นร้อยเรียง
ยิ้มหวังเคียงเพียงหมายคล้ายฝันไป
จึง..เพียงยิ้มพริ้มรับคำขับขาน
จึงเพียงสานสู่สองมองหวั่นไหว
จึงเพียงเอื้อเผื่อพลาดหากบาดใจ
จึงเพียงใครสู่สมนิยมคำ
ไหว..หวั่นตนทนหมองยามต้องจาก
ไหวหวั่นมากหากรักจักถลำ
ไหวหวั่นจนทนท้อรอระกำ
ไหวหวั่นทำจำลาน้ำตานอง
ใจ..เจ้าเอยไฉนเลยไม่เคยชื่น
ใจขมขื่นกลืนช้ำระกำหมอง
ใจรอคอยหงอยเหงายังเฝ้าปอง
ใจร่ำร้องครองคู่หวังอยู่เคียง
จึง..ตั้งตาพาฝันมั่นเสมอ
จึงพร่ำเพ้อเธอฉันรำพันเสียง
จึงรอคอยรอยทางวางมองเมียง
จึงร้อยเรียงสำเนียงกานท์ผสานใจ
เปลี่ยน..เวียนวนจนหวั่นวันคอยคู่
เปลี่ยนฤดูสู่ฤดีที่หวามไหว
เปลี่ยนคืนวันผันผ่านม่านวิไล
เปลี่ยนอย่างไรใจยังเปลี่ยว..แสนเดียวดาย.
..ยิ้มจึงไหวใจจึงเปลี่ยน..
"บ้านริมโขง"