สวัสดีคุณหมอ
กลอนยอดเยี่ยมครับ
ขอแจมด้วยงานปี ๔๒
บิน
จึงจำใจจับปีกบินอีกหน
เพื่อฝ่าฝนไปยังอีกฝั่งฝัน
มีเสบียงเลี้ยงกายได้หลายวัน
วางเดิมพันครั้งนี้ด้วยชีวิต
ข้ามมหาสมุทรครั้งสุดท้าย
เดียวดายอ้างว้างทุกทางทิศ
ขาดแคลนน้ำจืดและมืดมิด
หวั่นปลิดชีพคว้างลงกลางชล
ลมเห่เลโล่งสุดโค้งฟ้า
ทายท้าปีกแกร่งกับแผงขน
นกน้อยกบฏผู้อดทน
ยากใครสักคนจะเข้าใจ
จากรุ่งจวบแลงคอแห้งผาก
ถึงฟากฝั่งฝันจะวันไหน
ฟากฝั่งทั้งรู้ว่าอยู่ไกล
ปีกไหล่อิดโรยยังโบยบิน
ฝั่งโน้นคือฝันอันบรรเจิด
ไปเถิดหนอสัตว์ผู้พลัดถิ่น
ไปหาพืชพงและดงดิน
สูดกลิ่นกรุ่นหอมพยอมไม้
จวนสูรย์สูญแสงฟ้าแดงกล่ำ
ใกล้ค่ำฟ้าเรืองแลเหลืองใส
คลื่นขรมลมขับหนาวจับใจ
แลไฟลอยเรืออยู่เรื่อเรือง
ทะเลข้างหน้าซิข้าหวั่น
พรึงพรั่นอุกาฟ้าเหลือง
หากพายุโหดโกรธเคือง
เปล่าเปลืองแรงเจ้าจะเปล่าดาย
กลับมิวิตกแก่นกกล้า
วันหน้าไม่อาจจะคาดหมาย
ถ้าชะงักงันรอวันตาย
จักอายถ้ารู้ในหมู่นก
เมื่อกล้าก็ขืนไม่คืนกลับ
ขยับปีกแกร่งด้วยแผงอก
เห็นฝั่งรำไรแมกไม้รก
ถึงบกคงฟ้าอุษาจาง
ฉับพลัน!..ฟ้าโกรธและลมกราด
กัมปนาทแผดเสียงเปรี้ยงปร้าง
นกน้อยงุนงงหลงทาง
ปลิวกลางพายุราวธุลี
เรือล่มลมฉีกเป็นซีกชิ้น
กลืนกินอวนปลากลาสี
ขย้ำส่ำสัตว์เป็นบัตรพลี
แหลกในราตรีอันเลวร้าย
……………………….
แล้วแดดเช้าวาววับก็กลับหวน
ปูเสฉวนโผล่ปุ๊ปแล้วผลุบหาย
มีซากเรือเกลื่อนกลาดบนหาดทราย
กับซากนกนอนตายที่ชายเล….
๑ ธันวาคม ๒๕๕๒
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน |
24 พฤศจิกายน 2024, 09:44:AM | |||
|
ผู้เขียน | หัวข้อ: --นกไพร-- (อ่าน 10342 ครั้ง) |
| ||||||||||
Email: