มาถึงพ่อ คนดี เธอ....มีเรา
ที่สุดท้าย ปลายฟ้า พาเราพบ
แผ่นดินกลบ เกลื่อนหน้า ข้า....สับสน
แผ่นน้ำกั้น สั่นสะท้าน ผ่านกลอนกล
แผ่นจิตต่าง สร้างตน จนหวั่นใจ
หากหลับตา ข้าลง ตรงริมฝั่ง
มีความฝัน ฝากหวัง ดั่งเขาใหญ่
มีความรัก ปักผ่าน กานท์หทัย
มีความสุข สดใส ให้มิเลือน
ข้าสับสน ด้นกลอน อ้อนพินิจ
ตราบดวงจิต บรรจง จนบทเคลื่อน
ตราบห่วงหา อาทร ย้อนวันเดือน
ตราบคือเธอ เสมอเพื่อน เยือน...ไมตรี
ข้าคือมิตร จิตวาง สร้างสรรค์สุข
มาปลอบปลุก ประโลม โหมสุขี
มาขีดพจน์ รสดึก ตรึกกวี
มาถึงพ่อ คนดี เธอ....มีเรา
แสนเดียวดาย ภายหน้า สโมสร
จงเขียนกลอน กลบท จดขุนเขา
จงขีดเมฆ เสกดิน สินธุ์ธารเงา
จงวาดเหงา เศร้าโศก ในโลกกานท์
หทัยกาญจน์
๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔
หลับตาลงตรงนี้ที่ขีดเขียน
เลือดไหลเวียนเปลี่ยนหมุนอุ่นสมาน
แต่ใจหนาวร้าวรอนอ้อนดวงมาน
ถึงสะท้านพาสะท้อนวอนอารมณ์
นั่นคือเพื่อนเยือนหมู่ผู้ร่วมสร้าง
แต่อ้างว้างวางใด..ได้สุขสม
คนชิดใกล้ไหนคู่..เป็นชู้ชม
มีแต่ลมพรมผ่าน..รานฤทัย
จึงหวังเพียงเสียงวจีที่เผยบอก
ว่าช้ำชอกออกสู่คงลู่ไหล
จากหนึ่งทรวงถึงหนึ่งคนเพียงสนใจ
ขอหนึ่งใครเคียงข้างอย่าร้างเลย
ทั้งทุกข์ท้อรอเกี่ยวเดียวดายนัก
ยังยากจนข้นคลักจักเฉลย
คงเป็นเหตุแห่งห่างร้างชื่นเชย
ไร้คำเอ่ย..อวดอ้าง..คนอย่างเรา.
เลือดไหลเวียนเปลี่ยนหมุนอุ่นสมาน
แต่ใจหนาวร้าวรอนอ้อนดวงมาน
ถึงสะท้านพาสะท้อนวอนอารมณ์
นั่นคือเพื่อนเยือนหมู่ผู้ร่วมสร้าง
แต่อ้างว้างวางใด..ได้สุขสม
คนชิดใกล้ไหนคู่..เป็นชู้ชม
มีแต่ลมพรมผ่าน..รานฤทัย
จึงหวังเพียงเสียงวจีที่เผยบอก
ว่าช้ำชอกออกสู่คงลู่ไหล
จากหนึ่งทรวงถึงหนึ่งคนเพียงสนใจ
ขอหนึ่งใครเคียงข้างอย่าร้างเลย
ทั้งทุกข์ท้อรอเกี่ยวเดียวดายนัก
ยังยากจนข้นคลักจักเฉลย
คงเป็นเหตุแห่งห่างร้างชื่นเชย
ไร้คำเอ่ย..อวดอ้าง..คนอย่างเรา.
"บ้านริมโขง"