ละอองไอ ม่านหมอก ดุจหยอกเย้า
สายลมเบา พัดผ่าน ม่านเวหน
บนเส้นทาง ดังเปล่าให้เราทน
ช้ำกมล เมื่อไร้ ใครเหลียวมอง
เพียงเดียวดาย ความหมาย ในรู้สึก
ที่ส่วนลึก สุดเหงา เฝ้าแต่หมอง
ด้วยห่างร้าง อยู่เดียว เปลี่ยวคู่ครอง
อยู่เมืองทอง แสงสี ศิวิไล
แต่เหมือนเดิน บนทาง ที่ร้างเปลี่ยว
อีกยังเคี้ยว-คดขวาง สร้างหวั่นไหว
หลากฝูงชน คนเมือง เรืองแสงไฟ
ระคนไป ร้ายดี มิรู้เลย
เหงาสุดเหงา เฝ้ามอง แต่ท้องฟ้า
ไยเทวา เบื้องบน ทนเมินเฉย
แสนเดียวดาย เพ้อพก โอ้อกเอย
ยากจะเผย ร้ายดี ที่ปลายทาง
ละอองไอ ม่านหมอก ออกสีหม่น
คราวที่ฝน โปรยมา ครารุ่งสาง
ความเหว่ว้า เกาะกิน ไม่สิ้นวาง
แม้ฝนจาง...ยังอดสู...เมื่ออยู่เดียว....
"สุนันยา"