หนาวน้ำค้าง กลางน้ำตา
สาวรัญจวนชวนซึ้งถึงหยดน้ำ
ที่งามล้ำฉ่ำใสใคร่ครวญหา
งามแวววับจับใจสู่นัยนา
แสนตรึงตราคราเฝ้าเร้ารุนแรง
เป็นหยดน้ำความสุขปลุกชีวิต
มีเพียงนิดติดน้อยคอยแอบแฝง
แล้วละลายหายสิ้นถิ่นแสดง
เหมือนดั่งแกล้งแบ่งชื่นชั่วคืนคราว
เกินจะคว้ายึดครองต้องหมองหม่น
ครองทุกข์ทนคนเดียวอยู่เปลี่ยวหนาว
เหมือนชีวิตลิขิตเคียงเพียงมองดาว
เด่นสกาววาววาบล้วนภาพลวง
ชีพที่เห็นเป็นไป..หนอไร้คู่
ขาดชื่นชู้คู่ครองที่ห้องหวง
เหมือนอยู่ใกล้รักหวานอันซ่านทรวง
กลับเลยล่วงดวงฤดีมีแต่ตรม
ยามขาดใครในฝันคืนนั้นเศร้า
หามีเงาใดอื่นช่างขื่นขม
มองรอบตัวสลัวลางนางระทม
หาใครห่มหัวใจก็ไม่มี
ต้องทนฝืนยืนเหม่อคอยเพ้อพร่ำ
ร่ายลำนำคำน้อยคอยสุขี
ฝากลอยผ่านม่านฟ้าเข้าพาที
สู่คนดี..ที่จากไป ให้หวนคืน.
ที่งามล้ำฉ่ำใสใคร่ครวญหา
งามแวววับจับใจสู่นัยนา
แสนตรึงตราคราเฝ้าเร้ารุนแรง
เป็นหยดน้ำความสุขปลุกชีวิต
มีเพียงนิดติดน้อยคอยแอบแฝง
แล้วละลายหายสิ้นถิ่นแสดง
เหมือนดั่งแกล้งแบ่งชื่นชั่วคืนคราว
เกินจะคว้ายึดครองต้องหมองหม่น
ครองทุกข์ทนคนเดียวอยู่เปลี่ยวหนาว
เหมือนชีวิตลิขิตเคียงเพียงมองดาว
เด่นสกาววาววาบล้วนภาพลวง
ชีพที่เห็นเป็นไป..หนอไร้คู่
ขาดชื่นชู้คู่ครองที่ห้องหวง
เหมือนอยู่ใกล้รักหวานอันซ่านทรวง
กลับเลยล่วงดวงฤดีมีแต่ตรม
ยามขาดใครในฝันคืนนั้นเศร้า
หามีเงาใดอื่นช่างขื่นขม
มองรอบตัวสลัวลางนางระทม
หาใครห่มหัวใจก็ไม่มี
ต้องทนฝืนยืนเหม่อคอยเพ้อพร่ำ
ร่ายลำนำคำน้อยคอยสุขี
ฝากลอยผ่านม่านฟ้าเข้าพาที
สู่คนดี..ที่จากไป ให้หวนคืน.
"บ้านริมโขง"