มันเป็นความจริงใจที่ได้เกิด มิใช่ความ จงใจ ให้เรื่องเกิด
มันเป็นความเลอเลิศประเสริฐค่า มิใช่ความ หวังเลิศ ใดหรอกหนา
มันเป็นความจริงใจให้เมตตา มิใช่ความ ผูกพัน แต่ก่อนมา
มันเป็นความกรุณาหลั่งมาเอง แต่เป็นความ ห่วงหา ฉันสร้างเอง
จากพูดคุยทักทายหมายเป็นมิตร แรกรู้จัก ทักทาย หมายเป็นมิตร
ไมตรีจิตมอบให้ใสงามเปล่ง ไมตรีจิต เธอให้ ใสงามเปล่ง
เห็นเธอซุ่มมุมนั่งเงียบวังเวง เธอเงียบหาย ทำฉัน หวั่นวังเวง
ไม่ครื้นเครงดังเช่นที่เป็นมา จะครื้นเครง เช่นไร ในอุรา
ไม่รู้หรอกว่าใครทำให้เศร้า เธอรู้ไหม ทุกวัน ฉันนั่งเศร้า
ไม่รู้หรอกว่าเหงาเฝ้าใครหา เธอรู้ไหม ฉันเหงา เฝ้าคอยหา
ไม่รู้หรอกใครทำช้ำอุรา เธอรู้ไหม ฉันรอ ขอเธอมา
ไม่รู้หรอกตั้งตาเฝ้าหน้าจอ จะเหยียวยา ด้วยใคร ในหน้าจอ
หวังเพียงให้เธอคลายหายห่างทุกข์ หวังถามข่าว ราวเรื่อง เนื่องทุกข์สุข
หวังเพียงให้ปลอบปลุกสุขใจก่อ หวังถามข่าว ปลอบปลุก รุกไม่ย่อ
หวังเพียงให้กำลังแทนนั่งท้อ หวังถามข่าว ที่รัก จึงดักรอ
หวังเพียงให้เฝ้ารออย่างใจเย็น ภาวนา วอนขอ ทุกเช้าเย็น
อย่าจดจ่อรอใครจนได้ป่วย เหนื่อยบ้างไหม อกข้าง ที่เจ็บป่วย
ห่วงตัวด้วยรู้ไหมใครเล่าเห็น ห่วงตัวด้วย เจ็บหนัก จักทุกข์เข็ญ
หากรอจนเจ็บไข้ไม่จำเป็น ผ่อนบ้างนะ งานใด ไม่จำเป็น
ใช่ประเด็นโกรธงอนวอนจงคิด เธอโปรดเห็น ใจด้วย ช่วยจงคิด
หากเป็นความห่วงใยที่ไม่ชอบ บทท้ายนี้ ตอบครู ว่าผมชอบ
หากเป็นความปลุกปลอบไม่ชอบจิต คำปลุกปลอบ เป็นปลื้ม ในดวงจิต
หากเป็นความหวังดีที่น้อยนิด ความหวังดี ครูให้ ใช่น้อยนิด
หากเป็นความล้ำสิทธิ์ต้องขออภัย จากใจศิษย์ จึงตอบ ว่า......ขอบคุณ
"กานต์ฑิตา"
๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
..ขอบคุณครับ ครูกานต์ ทุกๆความห่วงใย ...คันไถ...