โอ้...นงพาล มาณวิกา สุดาสร้อย
ช่างหยดย้อย หยาดเยิ้ม ชวนเคลิ้มฝัน
พิไลสม คมขำ สุดรำพัน
วิไลวรรณ โสภิต สะกิดตา
ทรามสงวน ชวนสยิว ทุกผิวเนื้อ
โฉมอะเคื้อ ล้นเสน่ห์ ดุจ...เมขลา
อัน...ทรวดทรง องค์ร่าง วรางคณา
งามยิ่งกว่า โฉมใด ในปฐพี
เยื้องนวดนาด ยาตรา สง่าสูง
ประหนึ่งยูง รำแพนหาง พรายพร่างสี
ล้วนแพรวเพริศ เฉิดฉิน ทุกอินทรีย์
แม้นเทวี ที่เปล่งปลั่ง ก็ยังอาย
พิศพักตร์เริด เชิดหน้า , เกศาพัด-
โบกสะบัด ลอนระริ้ว พลิ้วสยาย
ยามเจ้าแย้ม แฉล้มยิ้ม ยิ่งพริ้มพราย
ทรวงละลาย ด้วยแรงชู้ เข้าจู่โจม
ดั่งถูกคลื่น ผืนน้ำ กระหน่ำสินธุ์
ละเลงริน...ระรวยหวาน...ละลานโถม
พัดกมล จนเคลื่อนคล้อย ลอยโพยม
เพียงเพ่งโฉม...แน่งน้อย เจ้ากลอยใจ
งาม...เอย...งาม ทรามสวาท พิลาสแสน
กระทั่งแม้น องค์เทวัญ ยังหวั่นไหว
น้อม...มโน ศิโรราบ ทาบหทัย
ควักทรวงใน ให้สี่ห้อง ไว้ครองเคียง
โดย
อักษราวารี
โอ้โฉมยง ทะนงร่อน จากบ่อนไหน
ชายถึงได้ ใฝ่กราย มิบ่ายเบี่ยง
ช่างชดช้อย ชม้อยคล้าย หมายร่วมเรียง
เสน่ห์ย้อม พร้อมเพรียง เราเลี่ยงไกล
ชาติปางก่อน อรนุช คงขุดถาง
บุกเบิกทาง สร้างบุญ ช่วยหนุนไว้
จึงบรรเจิด เลิศพา ประดาใจ
ชนยลพบ สยบใคร่ ไร้ปริยาย
รัตนาวดี
ชายถึงได้ ใฝ่กราย มิบ่ายเบี่ยง
ช่างชดช้อย ชม้อยคล้าย หมายร่วมเรียง
เสน่ห์ย้อม พร้อมเพรียง เราเลี่ยงไกล
ชาติปางก่อน อรนุช คงขุดถาง
บุกเบิกทาง สร้างบุญ ช่วยหนุนไว้
จึงบรรเจิด เลิศพา ประดาใจ
ชนยลพบ สยบใคร่ ไร้ปริยาย
รัตนาวดี