มองจันทร์เจ้า คราวคืนค่ำ ย้ำคืนเหงา
นั่งในเงาเฝ้าฝัน วันวาดหวัง
เพียงภาพเพ้อละเมอหา มาประทัง
ใจจะยัง ฝืนเฝ้า เงาน้ำตา
จันทร์เจ้าเอย อ้างว้าง คนทางนี้
หนาวกวีวาด คำเพรียก ร่ำเรียกหา
หนแห่งใด ไม่ย้อน จรจากลา
ดาริกากลืนกล้ำ อยู่ร่ำไป
ห่มแสงจันทร์ จะอุ่นใจ เท่าใดได้
ดาวพรั่งพราย ภาพฟ้า มาเศร้าสรร
ใจคนจร เจียรจะล้า น้ำตาพลัน
ซบแสงจันทร์ จมร้าว กับคราวคืน
ห้วงใจในคืนเหงา เศร้า สะอื้น
มิรู้ตื่น ต้านจม จะวันใหน
หนาวน้ำตา มาชโลม โหมห้วงใจ
จะวันใด ได้ไออุ่น มาจุนเจือ
นั่งในเงาเฝ้าฝัน วันวาดหวัง
เพียงภาพเพ้อละเมอหา มาประทัง
ใจจะยัง ฝืนเฝ้า เงาน้ำตา
จันทร์เจ้าเอย อ้างว้าง คนทางนี้
หนาวกวีวาด คำเพรียก ร่ำเรียกหา
หนแห่งใด ไม่ย้อน จรจากลา
ดาริกากลืนกล้ำ อยู่ร่ำไป
ห่มแสงจันทร์ จะอุ่นใจ เท่าใดได้
ดาวพรั่งพราย ภาพฟ้า มาเศร้าสรร
ใจคนจร เจียรจะล้า น้ำตาพลัน
ซบแสงจันทร์ จมร้าว กับคราวคืน
ห้วงใจในคืนเหงา เศร้า สะอื้น
มิรู้ตื่น ต้านจม จะวันใหน
หนาวน้ำตา มาชโลม โหมห้วงใจ
จะวันใด ได้ไออุ่น มาจุนเจือ
อักษรเศร้า หนาวใจ อยู่ในห้วง
ดั่งประท้วง อุ่นไอ ที่หมายเอื้อ
แสงจันทร์ห่ม ลมหนาว เข้าคลุมเครือ
ทั้งหนาวเนื้อ หนาวใจ คล้ายจู่โจม
อยากจะปลอบ คนเหงา ที่หนาวหนัก
จำต้องหัก ใจนี้ มิหักโหม
เราก็หนาว เหลือรับ ซับประโคม
ดุจลมโลม เร้าทรวง หน่วงฤดี
เกล็ดน้ำค้าง กลางใบ ไม้ใสสด
เป็นเหมือหยด น้ำตา คราไหลรี่
ทั้งสองปราง พรางพราว เศร้าเต็มที
ไร้คนที่ หมายปอง ประครองนวล
ยินแต่เสียง ลมพลิ้ว ผ่านผิวแผ่ว
โอ้หนาวแล้ว ดวงใจ ร่ำไห้หวน
หากก่อไฟพิงไว้ อุ่นไออวล
ยังคงครวญ หนาวใจ ทำไงดี...
"สุนันยา"
ดั่งประท้วง อุ่นไอ ที่หมายเอื้อ
แสงจันทร์ห่ม ลมหนาว เข้าคลุมเครือ
ทั้งหนาวเนื้อ หนาวใจ คล้ายจู่โจม
อยากจะปลอบ คนเหงา ที่หนาวหนัก
จำต้องหัก ใจนี้ มิหักโหม
เราก็หนาว เหลือรับ ซับประโคม
ดุจลมโลม เร้าทรวง หน่วงฤดี
เกล็ดน้ำค้าง กลางใบ ไม้ใสสด
เป็นเหมือหยด น้ำตา คราไหลรี่
ทั้งสองปราง พรางพราว เศร้าเต็มที
ไร้คนที่ หมายปอง ประครองนวล
ยินแต่เสียง ลมพลิ้ว ผ่านผิวแผ่ว
โอ้หนาวแล้ว ดวงใจ ร่ำไห้หวน
หากก่อไฟพิงไว้ อุ่นไออวล
ยังคงครวญ หนาวใจ ทำไงดี...
"สุนันยา"