จะฝากฟ้าประดับไว้ให้ยาวนาน
แม้ไม่หวานเท่าเหล่าพี่ "กวีเมือง".....
"เฮยอิง"
เพียรใส่บท จดจำ ลำนำเคร่ง
ขยันเร่ง บรรจง คงฟุ้งเฟื่อง
พร่างพรายแสง สดสี วจีประเทือง
กลอนกระเดื่อง หวานหู ไม่รู้เลือน
เป็นกวี พงไพร นั้นได้เปรียบ
มีความเงียบ และสายลม ห่มเป็นเพื่อน
ยามราตรี มีดาว หยอกเย้าเดือน
หริ่งเรไร ในเถื่อน ขับคีตกานท์
ปล่อยหัวใจ ลอยล่อง ท่องโลกกว้าง
แล้วจับความ อ้างว้าง ใส่คำหวาน
ร้อยสำเนียง เรียงผสม ในลมปราณ
ให้ซาบซ่าน กลั่นกรอง ทำนองดาว
ยังมีหนึ่ง หญิงมั่น เฝ้าฟันฝ่า
ขับลำนำ บ้านป่า อย่างเหน็บหนาว
ทุกราตรี ไหวหวาม ท่ามฟ้าพราว
มีแสงจันทร์ สุกสกาว กล่อมห้วงใจ
ขับกวี หลงฝัน ทุกวันก่อ
จินตนาการ ห้อมห่อ อย่าหวั่นไหว
กลอนบ้านนอก จะขับขาน สะท้านไพร
อยู่แห่งไหน ก็ชมเชย...นะ “เฮยอิง”
เป็นกำลังให้นะจ๊ะ....
พี่แซม
ขอบคุณพี่ที่ช่วยเข็ญเป็นแรงใจ
ท่ามทิวไพรในเถื่อนเกลื่อนหรีดหรื่ง
น้องจะถักอักษรามาประวิง
ใช้ทุกสิ่งสิงไพรใส่กวี
จะจับวางทางหลักในอักษร
เป็นคำกลอนอ้อนใส่ในที่นี้
จะชับกล่อมน้อมฟ้ากลางราตรี
ท่ามวิถีไกวแกว่งสู่แหล่งเมือง
ปล. ขอบคุณพี่แซม ขอบคุณทุกทุกท่านที่แนะนำ ติ ชม ข้าผู้น้อยน้อมรับจากใจ
ท่ามทิวไพรในเถื่อนเกลื่อนหรีดหรื่ง
น้องจะถักอักษรามาประวิง
ใช้ทุกสิ่งสิงไพรใส่กวี
จะจับวางทางหลักในอักษร
เป็นคำกลอนอ้อนใส่ในที่นี้
จะชับกล่อมน้อมฟ้ากลางราตรี
ท่ามวิถีไกวแกว่งสู่แหล่งเมือง
ปล. ขอบคุณพี่แซม ขอบคุณทุกทุกท่านที่แนะนำ ติ ชม ข้าผู้น้อยน้อมรับจากใจ