พระจันทร์วันเพ็ญ
สวยเย็นเด่นฟ้า
อ้อนออดวอนหา
แสงพร่าลาไกล
แสงดาวพราวพริบ
กะพริบหยิบใจ
สายธาราไหล
เรไรไหวดัง
สายลมพรมเฉียบ
ละเลียบเทียบฝัง
แอบอ้อมพร้อมหวัง
ใคร่ฟังพรั่งจินต์
เสียงโอดโอยหวน
ให้ทวนปรวนสิ้น
แม้จะถวิล
โรยรินถิ่นเศร้า
แลระยะทาง
ใกล้หว่างทางเขา
แลดูรู้เรา
ช่างเหงาเร้าทรวง
ไม้แมกแตกกิ่ง
ประวิงชิงหวน
เสียงคำพร่ำทวน
ช่างชวนหวนไป
สวยเย็นเด่นฟ้า
อ้อนออดวอนหา
แสงพร่าลาไกล
แสงดาวพราวพริบ
กะพริบหยิบใจ
สายธาราไหล
เรไรไหวดัง
สายลมพรมเฉียบ
ละเลียบเทียบฝัง
แอบอ้อมพร้อมหวัง
ใคร่ฟังพรั่งจินต์
เสียงโอดโอยหวน
ให้ทวนปรวนสิ้น
แม้จะถวิล
โรยรินถิ่นเศร้า
แลระยะทาง
ใกล้หว่างทางเขา
แลดูรู้เรา
ช่างเหงาเร้าทรวง
ไม้แมกแตกกิ่ง
ประวิงชิงหวน
เสียงคำพร่ำทวน
ช่างชวนหวนไป
พงพฤกษ์ทึบหนา
แนวป่ากว้างใหญ่
แตกกิ่งออกไป
งามในสายพันธุ์
คืนแล้วคืนเล่า
นั่งเฝ้าอยู่นั่น
อยากเห็นเพ็ญจันทร์
แสงอันนวลใย
สิ้นหวังทุกครา
เงามาบังได้
ต้นกิ่งดอกใบ
จงใจแกล้งเรา
เสียงสายน้ำดัง
ไหลหลั่งจากเขา
คลื่นแฝงแสงเงา
ยิ่งเศร้ากังวน
หรีดหริ่งแผดร้อง
เสียงก้องเวหน
น้ำค้างเบื้องบน
หยดหล่นต้องกาย
สะดุ้งเหน็บหนาว
นานยาวเหนื่อยหน่าย
อยู่เดี่ยวเดียวดาย
หวังหมายชมจันทร์.
นพ
13 พ.ย.54
แนวป่ากว้างใหญ่
แตกกิ่งออกไป
งามในสายพันธุ์
คืนแล้วคืนเล่า
นั่งเฝ้าอยู่นั่น
อยากเห็นเพ็ญจันทร์
แสงอันนวลใย
สิ้นหวังทุกครา
เงามาบังได้
ต้นกิ่งดอกใบ
จงใจแกล้งเรา
เสียงสายน้ำดัง
ไหลหลั่งจากเขา
คลื่นแฝงแสงเงา
ยิ่งเศร้ากังวน
หรีดหริ่งแผดร้อง
เสียงก้องเวหน
น้ำค้างเบื้องบน
หยดหล่นต้องกาย
สะดุ้งเหน็บหนาว
นานยาวเหนื่อยหน่าย
อยู่เดี่ยวเดียวดาย
หวังหมายชมจันทร์.
นพ
13 พ.ย.54