จันทร์กระจ่างกลางฟ้าตามองเห็น
ในคืนเพ็ญเย็นผิวพลิ้วลมหนาว
รัศมีสีทองผ่องสกาว
ขับฟ้าพราวราวแซมแต้มบรรจง
ดวงจันทร์มนยลนิ่งไม่ติงไหว
ดุจหัวใจใครนี้ที่บอกบ่ง
ทุกคืนวันฝันใฝ่ใจมั่นคง
จิตจำนงจงรักภักดิ์ไม่จาง
ขอบฟ้าไกลใช่ด้อยน้อยความรัก
ยิ่งแน่นหนักรักล้นบนความห่าง
หวานละมุนอุ่นใจไอบางบาง
ผ่านฟ้ากว้างขวางกั้นเรานั้นไว้
ดวงจันทร์ลอยคล้อยเคลื่อนเลือนลาลับ
ยังคงกลับขับฟ้าราตรีใหม่
มิลาลับดับมอดตลอดไป
เฉกสายใยไม่อาจสวาทวาย
มองพระจันทร์วันเพ็ญดั่งเห็นหน้า
ส่งยิ้มมาปลอบปลุกสุขสมหมาย
ค่ำคืนนี้ไม่เศร้าเหงาเดียวดาย
ดวงจันทร์ฉายปลายฟ้าสบตาซึ้ง
จันทร์ยังอยู่คู่กันวันฟ้าใส
พร้อมดวงใจดวงนี้ที่คิดถึง
จันทร์ไม่จางลางล่วงห้วงคำนึง
จันทร์เป็นหนึ่งจันทร์เพ็ญเด่นกลางใจ
"กานต์ฑิตา"
๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
เธอมองจันทร์ฉันก็มองสองเรานึก
ส่งระลึกถึงกันคราจันทร์ใส
เธอมองจันทร์นั้นซึ้งถึงทรวงใน
ว่ามีใครมองจันทร์ในวันเพ็ญ
เธอคงรู้อยู่ในใจใครคนหนึ่ง
ส่งคิดถึงฝากจันทร์เธอนั้นเห็น
เขาคนไกลส่งข่าวผ่านหนาวเย็น
บอกเขาเป็นคนไกลใฝ่คะนึง
จันทร์เจ้าเอ๋ยเอ่ยออกบอกเธอนั่น
ว่าคนไกลคนนั้นมั่นคิดถึง
แม้อยู่ห่างต่างฟ้ายังตราตรึง
มองจันทร์ซึ้งเป็นสื่อกลางระหว่างเรา
สล่าผิน
ส่งระลึกถึงกันคราจันทร์ใส
เธอมองจันทร์นั้นซึ้งถึงทรวงใน
ว่ามีใครมองจันทร์ในวันเพ็ญ
เธอคงรู้อยู่ในใจใครคนหนึ่ง
ส่งคิดถึงฝากจันทร์เธอนั้นเห็น
เขาคนไกลส่งข่าวผ่านหนาวเย็น
บอกเขาเป็นคนไกลใฝ่คะนึง
จันทร์เจ้าเอ๋ยเอ่ยออกบอกเธอนั่น
ว่าคนไกลคนนั้นมั่นคิดถึง
แม้อยู่ห่างต่างฟ้ายังตราตรึง
มองจันทร์ซึ้งเป็นสื่อกลางระหว่างเรา
สล่าผิน