ผลึกแก้ว
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 02:07:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ผลึกแก้ว  (อ่าน 7299 ครั้ง)
sitang
Special Class LV2
นักกลอนผู้ก้าวสู่โลกอักษร

**

คะแนนกลอนของผู้นี้ 46
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 129



« เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2011, 06:24:PM »

ฉันมองเห็นเธอเป็นดังผลึกแก้วอัญมณีมีค่า

เกินจักเปรียบเทียบประมาณกับสิ่งใดได้ในพื้นปฐพี

ทั้งโลกนี้และโลกหน้า...........................

คงจักเป็นวาสนาของฉันที่มิต้องดำรงชีพเดียวดายเปลี่ยวเปล่า

และเหน็บหนาวยามรัตติกาลอันมืดมิดเช่นนี้

เธอเอียงกายแนบข้างฉัน...............

จนหวั่นใจไหวสะท้านไปถึงก้นบึ้งของห่วงวัฏฏะแลจิตวิญญาณทั้งปวง

มันจะเป็นเช่นตลอดไปใช่ไหม........

ตลอดชั่วอันตกาลตราบนานนิรันดร์ใช่หรือเปล่า

เธอมิได้ตอบ...........................

บรรยากาศยามราตรีที่แผ่นผ้าสีนิลกาฬอันไพศาลเบื้องโพ้นช่างหนาวนัก

มิมีเสียงตอบกลับอันใดให้ได้สดับ........

เธอเอ่ยถ้อยพจนาอันไพเราะลึกซึ้งว่านี่จักเป็นรักเดียวของเธอ

ตราบเท่าเทียบที่ชีวีจักสิ้นตักษัย

เพียงวลีเท่านี่ดวงชีวีฉันก็ปลาบปลื้มชุ่มชื่นไปทั้งหฤทัยแล้ว

นับว่าเทพเจ้าแห่งโชคทรงสถิตอยู่กับเราโดยแท้.........

แม้รัติกาลค่ำคืนนี้จักไร้ซึ่งแสงแห่งชวาลา

ที่เคยประดับทั่วท้องฟ้ายามราตรีเช่นทุกวี่ทุกวัน

แต่มันก็ทำให้ฉันสุขใจยิ่งนัก

ใกล้สางแล้วกลิ่นละอองไอหมอกม่านสีขาวราวกับปุยสำลีเริ่มปรากฎ

เธอยังเคียงข้างฉันอยู่ใช่ไหม

....................................................

......................................................

............................................................

....................................................................

ใช่..........เธอตอบ

แล้วผลึกแก้วแววใสอันมีค่าเอนกอนันต์สุดที่จักพรรณนา

ก็จางหายจางหายจางหายและจางหายไป

พร้อมแสงแห่งพระอรุณยามรุ่งทิวา...............................

ฉันก็ต้องมาพบว่าตัวเองต้องอ้างว้างเอกาอีกครั้ง

เธอไม่รักษาวาจา............ปวดร้าวยิ่งนัก...............

เจ็บปวดเหลือเกิน.............

แล้วสำนึกสุดท้ายของใบหญ้าน้อยน้อยที่สิ้นหวังก็ยุติลง

พร้อมกับที่ผลึกน้ำค้างอันเป็นคู่สัญญาว่าจะรักกันก็จางหายไป

น่าสงสารยอดหญ้าเหลือเกิน

น่าสงสารยิ่งนักแลกาลชั่วปัจจุบันก็ถูกเขาเหยียบย่ำอยู่เป็นอาจินต์แล้ว

น่าสงสารเหลือเกิน










สิตางศุ์

ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

อริญชย์, พิมพ์วาส, รพีกาญจน์, สมนึก นพ, --ณัชชา--, ♥หทัยกาญจน์♥, พี.พูนสุข, yaguza, ...สียะตรา.., panthong.kh, สล่าผิน, ..กุสุมา.., เมฆา...

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s