เป็นเพียงจันทร์ เดียวดาย ใต้ผืนฟ้า...
กลางนภาโดดเดี่ยวเปลี่ยวไฉน
เพียงคลื่นลมโอบห้อมรายล้อมใจ
ดาวสดใสไกลใกล้มากไมตรี
จันทร์หนึ่งดวงห่วงล้นให้ชนชื่น
คอยหยิบยื่นรื่นรมย์พรมสุขศรี
เปิดฟ้าผ่องส่องนวลอวลฤดี
เพิ่มชีวีมีชีวาถ้วนหน้ากัน
จันทร์ยังเห็นเป็นจันทร์แม้วันคล้อย
บางครั้งลอยเหินห่างเหมือนล้างฝัน
แต่ด้วยความห่วงหาสารพัน
ไม่กี่วันพลันกลับมาซับตรม
แต่มีไหมใครหนอรอจันทร์บ้าง
ยามจันทร์ห่างวางจ้องปองดาวสม
เธอเลือกชื่นหมื่นพันต่างสรรชม
จันทร์ขื่นขมตรมนัก..ความรักเธอ
จันทร์อ้างว้างรู้ไหม..หาใดเท่า
จันทร์สุดเหงาเหว่ว้ามาเสมอ
จันทร์อยู่ห่างร้างคู่อยู่ละเมอ
จันทร์พร่ำเพ้อ..เธอไหนเห็นใจจันทร์
คงยังเป็นเช่นนี้อย่างที่เห็น
เป็นเดือนเด่นเพ็ญชื่นก่อหมื่นฝัน
เป็นหนึ่งในใคร-เขาเฝ้ารำพัน
เป็นสวรรค์มั่นหมายสุดปลายทาง.
กลางนภาโดดเดี่ยวเปลี่ยวไฉน
เพียงคลื่นลมโอบห้อมรายล้อมใจ
ดาวสดใสไกลใกล้มากไมตรี
จันทร์หนึ่งดวงห่วงล้นให้ชนชื่น
คอยหยิบยื่นรื่นรมย์พรมสุขศรี
เปิดฟ้าผ่องส่องนวลอวลฤดี
เพิ่มชีวีมีชีวาถ้วนหน้ากัน
จันทร์ยังเห็นเป็นจันทร์แม้วันคล้อย
บางครั้งลอยเหินห่างเหมือนล้างฝัน
แต่ด้วยความห่วงหาสารพัน
ไม่กี่วันพลันกลับมาซับตรม
แต่มีไหมใครหนอรอจันทร์บ้าง
ยามจันทร์ห่างวางจ้องปองดาวสม
เธอเลือกชื่นหมื่นพันต่างสรรชม
จันทร์ขื่นขมตรมนัก..ความรักเธอ
จันทร์อ้างว้างรู้ไหม..หาใดเท่า
จันทร์สุดเหงาเหว่ว้ามาเสมอ
จันทร์อยู่ห่างร้างคู่อยู่ละเมอ
จันทร์พร่ำเพ้อ..เธอไหนเห็นใจจันทร์
คงยังเป็นเช่นนี้อย่างที่เห็น
เป็นเดือนเด่นเพ็ญชื่นก่อหมื่นฝัน
เป็นหนึ่งในใคร-เขาเฝ้ารำพัน
เป็นสวรรค์มั่นหมายสุดปลายทาง.
"บ้านริมโขง"
ฝากจันทร์คืนวันลอยกระทง
เหมือน เส้นฟ้า กางกั้น ให้จันทร์เศร้า
เหมือน เมฆเทา บังหมด รันทดหมาง
เหมือน ดายเดียว เช่นใคร หมายจับวาง
เหมือน อ้างว้าง หนาวเหน็บ เก็บซ่อนใน
ฉัน เฝ้ามอง จันทรา บนฟ้ากว้าง
ฉัน ห่างร้าง มวลมิตร จิตหวั่นไหว
ฉัน คิดถึง ใครหนึ่ง ซึ่งอยู่ไกล
ฉัน ขื่นขม ดวงใจ คลับคล้ายจันทร์
ที่ ตอ้งอยู่ อย่างเหงา แสนเปล่าเปลี่ยว
ที่ ไร้ผู้ ข้องเกี่ยว ปองเหนี่ยวฝัน
ที่ อับเฉา สิ้นแสง แห่งตะวัน
ที่ ประกาย ผ่องพรรณ คราวฉันตรม
เดียวดาย อยู่ บนโลก ที่โศกซับ
เดียวดาย กับ พ่ายแพ้ ดวงแดขม
เดียวดาย ด้วย รักร้าง อย่างซานซม
เดียวดาย ท่าม สายลม พรมพลิ้วโชย
*******
...ฉันเหมือนจันทร์ เดียวดาย ใต้ผืนฟ้า
มองนภา พาใจ คล้ายแห้งโหย
ต้องอาดูร สูญรัก ที่ฝากโปรย
ดังโสมล้า แสงโรย สิ้นเรืองรอง
...กลางนภา ฟ้าสรวง ดวงจันทร์เจ้า
ยังเงียบเหงา คราวคล้อย เป็นรอยหมอง
...กลางผืนภพ หนึ่งข้า น้ำตานอง
มีเพียงเหงา ครอบครอง นั่งมองจันทร์..
คงเป็นอีกปีหนึ่ง(หมือนทุกปี)ที่ไม่ได้ไปลอยกระทงอีก...
“สุนันยา”