หอมดอกไม้อบอวลมวลพฤกษา
จึงนำมาถักถ้อยเป็นร้อยขาน
แด่หญิงหนึ่งซึ้งใจในห้วงกาล
แรงบันดาลหวานไหวให้คำนึง
มั่นในสัจวาจาที่ว่ากล่าว
มั่นเรื่องราวเล่าไปใจคิดถึง
มั่นในสิทธิ์เสรีภาพวาดใจพึง
มั่นในพี่น้องซึ่งพึ่งพิงกาย
มั่นในสันติสุขมนุษย์ชาติ
มั่นในกาจเก่งกู้รู้ทั้งหลาย
มั่นในธรรมฝั่งร่างเยี่ยงอย่างชาย
มั่นในเรื่องเลวร้ายว่ากลายดี
จึงยกย่องปองใจดังได้กล่าว
ดังยอดหญิงพริ้งพราวในวิถี
ใจงดงามยามสู้ไปในเสรี
นาม ออง ซาน ซูจี ที่ยลยิน
เผด็จการเกลื่อนกลาดอยู่ดาษพื้น
เธอจะฟื้นลมหายใจให้เป็นสิน
หยาดน้ำตาที่ว่าไหลไปทุกถิ่น
แลสายเลือดที่เปื้อนดินจะสิ้นไป
เธอลบวันฝันร้ายกลับหายหมด
เธอลบมันเลือดทุกหยดที่หลากไหล
เธอลบมันน้ำตาร่ำที่ช้ำใจ
เธอลบมันเปลวไฟในกลางเมือง
ณ แผ่นดินพื้นถิ่นกลิ่นพม่า
อารยะธรรมเล่อค่ามาลือเลื่อง
ฉาบแผ่นดินถิ่นเก่าเล่ารุ่งเรือง
โลกใบสวยงามเรื่องอยู่เนืองนิตย์
ดอกไม้หนึ่งพึงบานกลางประชา
ดอกไม้นั้นล้ำค่าน่าเชิดจิต
ดอกไม้หนึ่งล้อมกรอบรอบด้วยพิษ
ดอกไม่นั้นเชิดชีวิตให้ผู้คน
Design with love"
*ขอบคุณรูปภาพจากInternetค่ะ ^/\^
**กลอนบทนี้อาจไม่ใช่บรรพบุรุษคนไหน แต่ขอขานไขออกมาเป็นกลอน ด้วยคนนะคะ^^"