Re: ~*รำพึงใจ ในค่ำคืน*~
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
23 พฤศจิกายน 2024, 10:04:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ~*รำพึงใจ ในค่ำคืน*~  (อ่าน 4189 ครั้ง)
♥หทัยกาญจน์♥
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 469
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 814


เพียงความเคลื่อนไหว ผ่านบทกวี


เว็บไซต์
« เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2011, 09:41:PM »

                       


~*รำพึงใจ ในค่ำคืน*~

ลมเอื่อยเอื่อยเรื่อยเรื่อยเฉื่อยเฉื่อยรับ
น้ำค้างจับวับแวมแรมอัปสร
ฉันเอ่ยพร่ำกำสรวลระรวนรอน
ใจเหนื่อยอ่อนหวิวไหวให้รำพึง

สายลมพัดแผ้วผ่องต้องผิวเนื้อ
ความคลุมเครือเยื้อจิตด้วยคิดถึง
ฉุดฤทัยร่ำไห้ใฝ่คำนึง
รักครั้งหนึ่งตรึงใจไปนิรันดร์

หลายค่ำคืนดึกดื่นมิฝืนหลับ
ใจสดับรับเสียงเคียงความฝัน
ฝังจมร่างกลางความเงียบเฉียบสัมพันธ์
เพียงลำพัง ชมจันทร์กลางหมู่ดาว

แสงเดือดดาษหยาดเพชรเสด็จฟ้า
ทัศการดาริกาในหน้าหนาว
ดังภาพวาดฉาบศิลป์ประทินพราว
เล่าเรื่องราวยาวนานผ่านนภา

ราตรีนี้ยาวนานผ่านหลับใหล
เพียงคนเหงาถอดถอนใจฤทัยหา
เปล่าเปลี่ยวเดียวดายหลายเพลา
มิมีคนสบตา ล้วนลาไกล

จึงพร่ำกล่าวบอกดาวอย่างร้าวจิต
ว่าชะตาชีวิตติดหวั่นไหว
มองซ้ายขวาหน้าหลังแล้วยังไง
ยังไร้ใครปลอบใจในห้วงกาล

มองดูจันทร์งามเด่นเช่นคืนก่อน
จึงอ้อนวอนด้วยจิตอธิษฐาน
ยกร่างกายหมายเซ่นเช่นวิญญาณ
บรรณาการคนยากฝากเดียวดาย

ทิ้งตัวล้มลงนอนก่อนหลับใหล
ทิ้งหัวใจใครเหน็บเจ็บไม่หาย
ทิ้งดาวเดือนเปื้อนน้ำตาอ่อนล้ากาย
พร้อมกับรักครั้งสุดท้ายร้ายฤดี

“แสงจันทร์” เพียงความฝันในคืนหนาว
“แสงดาว” เพียงพราวพร่างแล้วร้างหนี
“แสงไฟ”เพียงทอดไหวในราตรี
“แสงชีวี” กลับริบหรี่ในค่ำคืน

“สายลม” ยังระทมเมื่อพัดผ่าน
“สายน้ำ”มิย้อนกาลวานพาฝืน
“สายใย” ภายในใจกลับกล่ำกลืน
“สายสัมพันธ์” ยังลืมดื่มด่ำลวง

Design with love
             


~*รำพึงใจ ในค่ำคืน*~

“แสงจันทร์” พลันกระจ่าง อยู่กลางหาว
ทาบทาทอง ผ่องสกาว พราวแดนสรวง
นวลเรืองเด่น เพ็ญอร่าม งามแดดวง
ดั่งน้ำเงิน คือน้ำยวง ช่วงราตรี

“แสงดาว” ดวงระยิบ ระยับฉาย
ขาวดั่งเพชร เกร็ดพราย หลายหลากสี
ดวงใหญ่น้อย คล้อยเคลื่อน เลื่อนจรลี
ดาวประจำ ค่ำนี้ ที่เรืองรอง

“แสงไฟ” ฟ้าถนน ทุกหนแห่ง
ขาวเขียวส้ม อมแดง แจ้งสาดส่อง
หลายสีสัน พันงาม ยามเหม่อมอง
ทั้งทางหลัก ทางรอง ผ่องค่ำคืน

“แสงชีวี” ชีวิต จิตสีขาว
ดั่งดารา ดวงดาว พราวฟ้าตื่น
ข้างจันทร์นวล ชวนจันทร์เด่น เพ็ญยั่งยืน
ล้วนปลอบปลุก ลุกคนฟื้น ชื่นกมล

“สายลม” ห่มละลิ่ว พลิ้วไสว
เสียงลมเอื่อย เฉื่อยไหล ในห้วงหน
จรดแผ่นดิน สินธุ์ธาร ผ่านสายชล
ทุกทิศทั่ว หัวตำบล ชนสุขจินต์

“สายน้ำ” ฉ่ำเยือกเย็น เห็นพิสุทธิ์
ขาวประดุจ ดั่งบทเพลง บรรเลงศิลป์
ร่ายทำนอง ใส่คำร้อง ลั่นยลยิน
หยดน้ำใส ส่ายริน  กวินคำ

“สายใย” ใจเกี่ยวดอง ดั่งผองเพื่อน
คล้ายมิ่งมิตร สถิตเคลื่อน เลื่อนงามขำ
ฟ้าลิขิต จิตพันผูก ปลูกทรงจำ
ดั่งนบน้อม พร้อมทำ จึงนำมา

“สายสัมพันธ์” มั่นในรัก สมัครสมาน
ดั่งพี่น้อง ผองกานท์ สาส์นภาษา
รักในถิ่น ศิลปะ อักษรา
เรียงร้อยพจน์ รสวาจา มาเพื่อคุณ

ว่าแสงใด ไฉนเลย เอยว่าเหงา
มีแสงจันทร์ พันแสงดาว พราวเกื้อหนุน
แสงชีวี สีไฟแรง แจ้งละมุน
ส่องสาดเจ้า ราวอบอุ่น อิ่มเอิบใจ

ว่าสายใด ไฉนพัด ซัดพลิ้วผ่าน
ดั่งสายลม ห่มสายธาร ขับขานให้
สายสัมพันธ์ มั่นคงรัก ทักสายใย
จดบทจาร กานท์หทัย ให้ขวัญเอยฯ

หทัยกาญจน์


ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

รพีกาญจน์, Design with love ᵔᴥᵔ, Music, พี.พูนสุข, ยามพระอาทิตย์อัสดง, amika29, panthong.kh

ข้อความนี้ มี 7 สมาชิก มาชื่นชม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 พฤศจิกายน 2011, 11:11:PM โดย หทัยกาญจน์ » บันทึกการเข้า

อักษราจารึก รักผลึกตรึกตรองคำ
ร้อยเรียงเคียงคู่ธรรม ศาสตร์ศิลป์ร่ำลำ

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s