ยามอาทิตย์จับจิตพิศล่วงลับ
ช่างเหมือนกับตัวคนที่หม่นไหม้
เป็นผุยผงเถ้าถ่านธุลีไป
เหมือนสิ่งใดที่ใคร่หายไกลตา
เพศพิศมองดวงจิตคิดว้าวุ่น
ให้หมองขุ่นดวงจิตถึงอุษา
ความร้อนทุกข์ปลุกออกนอกกายา
ให้รู้ว่าหมองเศร้าเร้าชีวี
ยามอาทิตย์ตะวันครั้นรุ่งสาง
หมองเบาบางสายลมพาหมองศรี
เหมือนกับคนทั้งทั่วรั้วธาณี
ช่างไม่มีน้ำใจใครปรีดา
เห็นคนทุกข์ประสบผลไรอยาก
ก็คิดมากการทำบุญทำทานหนา
เกินจะกล่าวคำล้นพรรณนา
ให้รู้ว่า...มนุษย์หยาบ...สุดขาดใจ
ตะวันคล้อยย้อยห้อยมาถึงบ่าย
ช่างหมองหมายเห็นเงาเศร้าพร่างไหว
เปรียบมนุษย์ไม่เที่ยงเอียงการใด
ก็จักใคร่มีเลห์สร้างทางกล
เหลี่ยมมากจัดหักมุมกลุ่มเป็นเลิศ
เหลี่ยมแพร้วเพริศหักมุมเสียทุกหน
คนเช่นนี้มีเหลี่ยมเปรียบเลห์กล
ให้หมองหม่นระทมระทนไป
โลงหมุนเวียนอาทิตย์เปลี่ยนวัฏจักร
เหมือนคนมักทำชั่วใจมัวใส
เหตุใดต้องทำชั่วแบบไหนไย
ไปทางไหนเศร้าเร้าทุกข์ใจตน
พิมพ์วาส