ความห่วงใยให้ฉันมันคงหมด
เธอจึงงดไถ่ถามความเป็นอยู่
เหมือนคนอื่นคนไกลไม่รับรู้
ดั่งฉันผู้เดียวดายตายจากกัน
ความห่วงใยให้มาแต่คราแรก
ซึมซับแทรกทรวงในใจของฉัน
ดอกไมตรีสีสวยช่วยแบ่งปัน
ทุกข์สุขสันต์รับรู้ไม่อยู่เดียว
ความเหงาหงอยค่อยจางเบาบางผ่อน
แม้ยามนอนป่วยไข้ใจห่อเหี่ยว
อาการตามถามไถ่ให้กราวเกรียว
หน้าซีดเซียวเลือดฝาดผุดผาดมี
สำหรับฉันมันมากยากแทนค่า
เพราะมหาศาลยิ่งทุกสิ่งที่
ดอกไม้ใดไหนเล่าเท่าไมตรี
กลิ่นหอมดีคลี่บานซ่านอณู
ความห่วงใยไออุ่นการุณย์เกื้อ
ที่เธอเผื่อแผ่คลายหายหดหู่
สำหรับเธอคงเป็นความเอ็นดู
คนไร้คู่เช่นฉันเท่านั้นเอง
ความห่วงใยให้ฉันในวันนี้
คงถึงที่สิ้นสุดหยุดแสงเปล่ง
ความเงียบเหงาเศร้าใจได้บรรเลง
เสียงวังเวงก้องดังทั้งหัวใจ
"กานต์ฑิตา"
๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๔
เธอจึงงดไถ่ถามความเป็นอยู่
เหมือนคนอื่นคนไกลไม่รับรู้
ดั่งฉันผู้เดียวดายตายจากกัน
ความห่วงใยให้มาแต่คราแรก
ซึมซับแทรกทรวงในใจของฉัน
ดอกไมตรีสีสวยช่วยแบ่งปัน
ทุกข์สุขสันต์รับรู้ไม่อยู่เดียว
ความเหงาหงอยค่อยจางเบาบางผ่อน
แม้ยามนอนป่วยไข้ใจห่อเหี่ยว
อาการตามถามไถ่ให้กราวเกรียว
หน้าซีดเซียวเลือดฝาดผุดผาดมี
สำหรับฉันมันมากยากแทนค่า
เพราะมหาศาลยิ่งทุกสิ่งที่
ดอกไม้ใดไหนเล่าเท่าไมตรี
กลิ่นหอมดีคลี่บานซ่านอณู
ความห่วงใยไออุ่นการุณย์เกื้อ
ที่เธอเผื่อแผ่คลายหายหดหู่
สำหรับเธอคงเป็นความเอ็นดู
คนไร้คู่เช่นฉันเท่านั้นเอง
ความห่วงใยให้ฉันในวันนี้
คงถึงที่สิ้นสุดหยุดแสงเปล่ง
ความเงียบเหงาเศร้าใจได้บรรเลง
เสียงวังเวงก้องดังทั้งหัวใจ
"กานต์ฑิตา"
๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๔
เจอข้อความงามงอนซ่อนความหมาย
หวังผ่อนคลายหายบ้างทางแก้ไข
คนเคียงชิดติดร่างเหมือนห่างไกล
ยามป่วยไข้ไม่เยี่ยมกรายหมายดูแล
ปล่อยอยู่เดี่ยวเปลี่ยวใจในยามยาก
รู้ลำบากจากไปไม่แยแส
เสียงเพ้อพร่ำร่ำร้องของดวงแด
ช่างยากแท้แก้ไขอย่างไรกัน
เสนอตัวบอกออกไปให้สับสน
กลัวหน้ามลก่นหาว่าหยามนั่น
ปรนนิบัติจัดให้ไข้ป่วยพลัน
ไม่มีวันฉันร้างห่างสายตา
ในยามเช้าเฝ้าใกล้ได้เช็ดตัว
เช็ดได้ทั่วหัวหูดูซ้ายขวา
ก่อนอาหารจานเด็ดเม็ดหลายนา
สีเขียวฟ้ายาทานอ่านยังจำ
ความห่วงใยใครนี้ที่มอบให้
จากหัวใจไม่เคลือบแคลงแสร้งว่าขำ
ดุจแสงเทียนเวียนสู่รู้กระทำ
ใจหมองคล้ำนำสว่างหายวังเวง.
นพ
23 ต.ค.54
หวังผ่อนคลายหายบ้างทางแก้ไข
คนเคียงชิดติดร่างเหมือนห่างไกล
ยามป่วยไข้ไม่เยี่ยมกรายหมายดูแล
ปล่อยอยู่เดี่ยวเปลี่ยวใจในยามยาก
รู้ลำบากจากไปไม่แยแส
เสียงเพ้อพร่ำร่ำร้องของดวงแด
ช่างยากแท้แก้ไขอย่างไรกัน
เสนอตัวบอกออกไปให้สับสน
กลัวหน้ามลก่นหาว่าหยามนั่น
ปรนนิบัติจัดให้ไข้ป่วยพลัน
ไม่มีวันฉันร้างห่างสายตา
ในยามเช้าเฝ้าใกล้ได้เช็ดตัว
เช็ดได้ทั่วหัวหูดูซ้ายขวา
ก่อนอาหารจานเด็ดเม็ดหลายนา
สีเขียวฟ้ายาทานอ่านยังจำ
ความห่วงใยใครนี้ที่มอบให้
จากหัวใจไม่เคลือบแคลงแสร้งว่าขำ
ดุจแสงเทียนเวียนสู่รู้กระทำ
ใจหมองคล้ำนำสว่างหายวังเวง.
นพ
23 ต.ค.54