ไอดินกลิ่นระเหย
ไอดินกลิ่นระเหย...ที่เคยหอม
หลังฝนหล่นพรั่งพร้อม...ดมดอมสม
ผืนแผ่นดินถิ่นเก่า...เราเชยชม
สัมผัสชัดชิดอารมณ์....คารมเดิม
ณ ตอนนี้ที่นี่...ไม่มีกลิ่น
เคยนอนดมชมดิน...สิ้นส่งเสริม
เหม็นสินธุ์ธารธารา...มาเต็มเติม
ไม่เคลิบเคลิ้มคู่ควร...ชวนอุ่นไอ
หากฝืนกลับหลับตา..ภาพพาย้อน
รำลึกฟื้นคืนก่อน..ตอนนอนได้
เม็ดฝนพร่ำฉ่ำเย็น...เห็นดวงใจ
เย้ายวนกลิ่นดินละไม..ในลานนา
บนเตียงตังฝั่งธาร...เรือนชานไม้
กับพ่อแก่แม่ใหญ่...ไร้ไฟฟ้า
มวลสายลมห่มพัด...ซัดศรัทธา
ให้เข้มแข็งแกร่งกล้า...ชีวาวัน
มาวันนี้มีขอบ...กรอบคันคู
ของคนใหญ่ใช่รู้...ปูทางสรรค์
กับชาวบ้านย่านนี้...ที่ตีกัน
ว่าใครแบ่งแย่งปัน...ผันน้ำ...ไหล
ฉันนั่งเล่าเฝ้าดู...อยู่ก็คิด
จากชีวันชีวิต...จิตนี้ใฝ่
จากเด็กน้อยค่อยเห็น..สิ่งเป็นไป
ว่าผู้หลับกับผู้ใหญ่...ได้เชยชิน
จากสมองสองมือ...ถือจอมเสียบ
กับคนโตโคเทียม...ดั่งเหลี่ยมหิน
ที่เคยใช้ตรองตรึก..นึกกลืนกิน
โกงแผ่นดินบ้านนี้..ที่เคยทำ
กับคนจนชนรากหญ้า..พาพลัดพราก
น้ำไหลเฉื้อยเอื่อยหลาก...จากสุขล้ำ
ทิ้งท้องทุ้งคุ้งแคว...แพสีดำ
ในคืนค่ำคืนวาน...กาลเปลี่ยนแปล
ฟ้าโปรดส่งเสริมคน..ตนแก้ไข
ให้ผองรวมร่วมใจ..ไร้ข้อแม้
ฝนจงหลังฝั่งสินธุ์...ถิ่นดวงแด
ได้เชยกลิ่นแผ่นดินแม่...แท้อีกครา
หทัยกาญจน์
๒๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๔