หลายวันผ่านไปโดยที่ผมยังตามหาพี่ไม่พบ และเงินที่ติดตัวมาก็หมดเกลี้ยง หลายวันมานี้ผมต้องอาศัยนอนตามป้ายรถเมล์บ้าง ตามสวนสาธารณะบ้าง สภาพของผมตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับคนจรจัดเร่ร่อน ผมเคยไปของานทำแต่ก็โดนไล่ตะเพิดออกมาทุกครั้ง ตอนนี้ผมไม่อยากทำอะไรแล้ว กรุงเทพฯในตอนนี้สำหรับผมมันไม่ใช่เมืองสวรรค์อีกต่อไป ผมอยากกลับบ้าน ผมคิดถึงแม่ ผมยังจำคำพูดของแม่ที่มันก้องอยู่ในหัวผมได้ทุกคำ ป่านนี้แม่ยังคงรอผมกลับบ้าน นางคงนั่งรออยู่ทุกวัน
คืนหนึ่งผมต้องสะดุ้งตื่นขึ้น เมื่อน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของผมมันสั่งว่าต้องการอาหาร เพราะในกระเพาะของผมมันว่างเปล่ามาแล้วหลายวัน ผมลุกขึ้นจากกองกระดาษหนังสือพิมพ์ริมฟุตบาท ทั้งยุงและแมลงวันกำลังรุมทึ้งตัวผมอยู่ในขณะนี้ สายตาผมมองไปยังฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นร้านขายข้าวขาหมู กลิ่นขาหมูน้ำแดงโชยมาเตะจมูกผม ทำให้ต้องกลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า
ผมไม่รู้ตัวเลยว่าไปยืนอยู่หน้าร้านตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินแต่คำว่า
“ออกไป!.. ใครให้แกมายืนเกะกะหน้าร้านฉัน เห็นไหมลูกค้าไม่กล้าเข้าร้านแล้ว..ไป ออกไป..”
ตอนนี้ผมคงไม่ต่างอะไรกับหมาข้างถนนตัวหนึ่ง ที่คอยรับเศษอาหารจากคนที่ใจบุญ วันไหนมีคนหยิบยื่นให้ก็พอประทังชีวิตได้บ้าง
ผมเดินโซเซออกมาจากร้านไปไม่ไกล และหันกลับมามองด้วยสายตาที่คับแค้น เห็นผู้หญิงคนหนึ่งลงมาจากรถเก๋งสีแดงที่จอดอยู่หน้าร้าน กำลังชี้นิ้วสั่งขาหมูชิ้นโต สิ่งที่เจ้าของร้านปฏิบัติกับเธอช่างแตกต่างกับผมเสียเหลือเกิน เจ้าของร้านคอยประจบเอาอกเอาใจเธอ ซึ่งกับผมคอยไล่ตะเพิดด่าเหมือนหมูเหมือนหมา ผมเห็นกระเป๋าใบหนึ่งเหน็บอยู่ที่แขนของเธอ ตอนนี้ผมคิดถึงแม่ขึ้นมาอย่างจับใจ ผมอยากกลับบ้าน
“กรี๊ด! ช่วยด้วย ..” หญิงสาวร้องขึ้นด้วยอาการตกใจ
ผมวิ่งไปอย่างไม่คิดชีวิตเท่าที่แรงของผมพอจะมี โดยมือข้างหนึ่งยังกำกระเป๋าไว้แน่น ผมยังคงวิ่งไปข้างหน้า ผู้คนสองข้างทางมองดูผมด้วยสายตาแปลกประหลาด และก็พวกที่กำลังวิ่งไล่ตามหลังผมมาอีก ผมรู้สึกว่าซอยนี้ดูลึกกว่าปกติ ในห้วงหนึ่งภาพของแม่ผุดขึ้นอยู่ตรงหน้า ผมเห็นแม่ยืนอยู่หน้าบ้าน เห็นท้องนา ที่ผมเคยวิ่งเล่น และเห็นตัวเองยืนกอดแม่อยู่หน้าบ้าน พร้อมกับพูดว่าแม่ผมกลับมาแล้ว ผมจะไม่ไปอีกแล้วกรุงเทพฯ ผมจะอยู่กับแม่
“เอี๊ยด…โครม!!..” เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
“โอ้ย!..” ผมร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด เมื่อตัดสินใจวิ่งข้ามถนนไปอีกฝั่ง แต่ไม่พ้น รถคันหนึ่งเหวี่ยงผมไปกระแทกกับขอบฟุตบาทข้างทาง ผมนอนแน่นิ่งกอดกระเป๋าไว้แน่น เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ผมได้กลับบ้าน ผมไม่ยอมปล่อยมันไปง่ายๆหรอก
ตอนนี้ผมไม่รู้สึกเจ็บอะไรแล้ว รู้สึกว่ามีน้ำอุ่นๆไหลออกมาจากตัวผมจนชุ่มโชก ผมเหนื่อยเหลือเกิน รู้สึกง่วง และไม่อยากหายใจแล้ว หูของผมมันไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากคำพูดของแม่ที่มันก้องอยู่ในหัวผม แม่ยื่นมือมาลูบหัวผมเบาๆ พูดกับกับผมว่าลูกเหนื่อยมากแล้ว ควรพักผ่อนเสียบ้าง หลับเถิดนะแม่จะร้องเพลงกล่อมลูกเอง เพลงที่แม่เคยร้องให้ลูกฟังตอนเล็กๆไง จำได้ไหม พอลูกตื่นขึ้นมาแม่จะทำแกงส้มที่ลูกชอบให้กิน
ผมค่อยๆหลับตาลงช้าๆ ผมไม่เห็นแม่แล้ว.. แม่หายไป! หูของผมอื้ออึงไปหมด และแล้วความมืดก็ค่อยๆปกคลุมทีละนิดๆจนสุดตา.
"...อย่าไปเลยนะลูกจะถูกฆ่า
เขาจะเอาวิญญาณ์เจ้ามาป่น
อยู่กับแม่แก่เฒ่าเฝ้าเลี้ยงตน
จะถูกคนมากมายทำร้ายมา..."
เขาจะเอาวิญญาณ์เจ้ามาป่น
อยู่กับแม่แก่เฒ่าเฝ้าเลี้ยงตน
จะถูกคนมากมายทำร้ายมา..."