Re: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน
22 พฤศจิกายน 2024, 10:31:PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

กด Link เพื่อร่วมกิจกรรม ผ่านFacebook (หรือกดปุ่มสมัครสมาชิกด้านบน)
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เสียกรุงครั้งที่สาม!!  (อ่าน 12337 ครั้ง)
ช่วงนี้ไม่ว่าง
Special Class LV5
นักกลอนแห่งเมืองหลวง

*****

คะแนนกลอนของผู้นี้ 358
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 792



« เมื่อ: 18 ตุลาคม 2011, 01:55:PM »


ด้วยข้าศึกเชี่ยวกรากจากฝั่งเหนือ
รวมตัวเพื่อตีกรอบรอบสถาน
หมายพิชิตเมืองกรุงมุ่งทะยาน
ให้แหลกรานย่อยยับไปกับแรง

ผ่านนคร สวรรค์ ดันเข้าบ่า
โหมบีทาท่วมทั่วหัวระแหง
แม้กำแพงแนวกั้นมันตะแบง
ด้วยฤทธ์แห่งพิรุณหนุนนำชัย

กองหนุนหลักจากเขื่อนเคลื่อนเข้าเสริม
มาเพิ่มเติมกองทัพร่วมขับไล่
ทั้งนาลุ่มเรือกสวนล้วนบรรลัย
ข้าศึกไหลบ่าท่วมอ่วมวิญญา

สู่นครกรุงเก่าเข้าล้อมกรอบ
ทุกเขตรอบเกาะเมืองทั้งเบื้องหน้า
มีป่าสักเข้าร่วมท่วมระอา
มิดหลังคาบ้านเรือนเหมือนทะเล

ถึงหน้าด่านรังสิตติดแนวกั้น
เอาเรือหลวงช่วยดันผันหักเห
แต่กระนั้นข้าศึกผนึกเท
ยังเกเรรุกไล่จนใกล้พัง

มันยึดเมืองหลายเมืองสู่เบื้องลึก
มันผนึกแรงบ่าหมายฆ่าฝัง
มันตีกรอบรอบกรุงตุงพนัง
มันจะคลั่งถึงไหน..ใจระทึก

คนเผาถ่าน


 ลาตายดีกว่าตู ซึ้งจัง

น้ำไม่มี  ที่จะไป  จึงไหลปรี่
เข้าโจมตี  ประดุจว่า  เป็นข้าศึก
ยิ่งกางกั้น  มันยิ่งรวม  จนท่วมลึก
มานั่งนึก  น้ำไม่มี  ที่จะไป

ด้วยต่างที่  ต่างก็กั้น  เพราะหวั่นน้ำ
ต่างก็ทำ  ผนังกั้น  มันไม่ไหล
ด้านในแห้ง  แต่ด้านนอก  ออกอ่วมใจ
ใครต่อใคร  ก็หวังรอด  ปลอดภัยตัว

ผลเลยส่ง  ตรงไป  ผู้ไร้ทรัพย์
ต้องย่อยยับ  ทั้งชีวิต  น้ำมิดหัว
จากเข่า,เอว  ถึงบ่า มาล้นตัว
แม้หวาดกลัว  สุดจะหนี  นทีธาร

เพราะมันขาด  ที่ลุ่ม  จะอุ้มน้ำ
จึงเอ่อล้ำ  ล้นบ่า   ที่นา,บ้าน
ด้วยต่างฝ่าย  ต่างก็กั้น  หมั่นต้านทาน
น้ำจะผ่าน  ตรงไหน  ไม่เห็นทาง

คนอยู่ใน  ทำนบ  พบหวาดหวั่น
ต่างก็ขวัญผวา  จนฟ้าสาง
คนอยู่นอก  ทำนบ  จบทุกบาง
บ้างบาดหมาง  เพราะคันกั้น  นั้นแท้จริง

แม้น้ำใจ  ไทยต่างมี  อารีรอบ
ก็ต้องขอบ  คุณจากใจ  ในหลายสิ่ง
แต่ถ้าแลก  กันได้  ไม่ประวิง
หวังอย่างยิ่ง  อยากให้น้ำ  ลดต่ำลง

วิงวอนรัฐ  ขจัดภัย  ในปีหน้า
เพื่อต่อต้าน  น้ำบ่า  ขออย่าหลง
ด้วยจัดเตรียม  ที่ลุ่มไว้  ใส่จำนง
น้ำก็คง  ไม่ล้นเช่น  ที่เป็นแล


ปล.ผมมีความในใจหลายอย่าง รู้ว่าพูดไปอาจไม่ควรในเวลาเช่นนี้  ผมว่าคนที่ถูกน้ำท่วมนั้น
ถ้าให้เลือกได้ระหว่างรอธารน้ำใจ  กับไม่ต้องหมดตัว  ผมว่าชาวบ้านเขาเต็มใจเลือกอย่างหลังมากกว่า
การแก้ปัญหาโดยทำผนังกั้นน้ำไม่ให้เข้าแต่ละที่นั้น  มันเป็นการแก้ปัญหาแบบขอไปที  ใครมีกำลังมีทรัพย์
ก็ทำผนังกั้นน้ำเฉพาะกลุ่มเฉพาะตน  แต่คนที่ไม่มีกำลังจะกั้นน้ำล่ะ ? บ้านอยู่นอกเขตผนังกั้นน้ำ  น้ำท่วมมิดหัว
การทำผนังกั้นไม่ให้น้ำเข้ายิ่งจะทำให้ภายนอกน้ำมีระดับเอ่อสูงขึ้นเพราะน้ไม่มีที่จะไป  เมื่อน้ำมีระดับสูงขึ้นและมี
ปริมาณมหาสาล ในที่สุดแนวกำแพงที่ก่อไว้จะต้านทานน้ำหนักไม่ไหวในที่สุดก็จะพังและน้ำจะทะลักไหลเข้าอยู่ดี
ดังที่เห็นหลายๆที่ว่าในที่สุดจะกั้นไว้ไม่อยู่  ส่วนคนที่อยู่นอกแนวกั้นก็ลำบากมากเพราะน้ำท่วมมิดหลังคาบ้าน
รัฐจะว่าอย่างไร
         ทางออกที่ถูกต้องก็คือรัฐจะต้องสร้างที่ลุ่มเพื่อรองรับน้ำ ตามแนวพระราชดำริที่เรียกว่าแก้มลิง ไว้รองรับน้ำ
เมื่อน้ำหลาก  และเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งที่ขาดน้ำ  การสร้างแก้มลิง หรือที่ลุ่มเพื่อรองรับน้ำนี้ไม่ใช่จะสร้างเพียง
ที่สองที่พอเป็นพิธีไปเท่านั้น  แต่ควรจะสร้างเป็นหมื่นๆที่ทั่วประเทศ โดยมีีขนาด เล็ก  กลาง  ใหญ่  ตามความเหมาะสม
การใช้วิธีก่อผนังกั้นน้ำในแต่ละจุดนั้นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง  เพราะเมื่อทุกคนต่างฝ่ายต่างก็กั้นทำนบของตน  ในที่สุดน้ำไม่มี
ที่จะไปก็จะเอ่อล้นท่วมสูงขึ้น  ผู้ที่รับเคราะห์ก็คือผู้ที่อยู่นอกแนวผนังกันนั่นเอง  ในเมื่อฟากหนึ่งอยู่สบายน้ำไม่ท่วม
แต่อีกฟากต้องอยู่อย่างลำบากน้ำท่วมจนมิด  ลองคิดดูว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น  แม้ธารน้ำใจจะมากมีแต่มันเทียบไม่ได้เลย
กับการต้องสิ้นเนื้อประดาตัว
        ยังไงฝากท่านผู้นำไปพิจารณาด้วยละกัน  ว่าจะแก้ปัญหาระยะยาวอย่างไร  การเตรียมแค่กระสอบทราย อาหารแห้ง
กับเงินค่าชดเชยคงไม่ใช่ทางออกที่ดีแน่ๆ  อย่างไรก็ดี ปีหน้าฟ้่าใหม่  ควรจะงดโครงการเมกะโปรเจคทั้งหลาย  แล้วเอาเงิน
นั้นมาขุดที่ลุ่มรองรับน้ำจะดีไหม  การช่วยชาวบ้านไม่ให้น้ำท่วม  นอกจากจะเป็นการช่วยประชาชนรากหญ้าแล้วยังเป็นการ
ช่วยอุตสาหกรรม ช่วยเศรษฐกิจของประเทศไม่ให้ล่มสลายอีกด้วย  








ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :

เมฆา..., บัณฑิตเมืองสิงห์, อริญชย์, Music, รพีกาญจน์, ♥หทัยกาญจน์♥, amika29, บ้านริมโขง, hort39, นพตุลาทิตย์, ลมหนาว, พี.พูนสุข, คนเผาถ่าน

ข้อความนี้ มี 13 สมาชิก มาชื่นชม
บันทึกการเข้า

Email:
Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
s s s s s