ธรรมศาลา
LV3 นักกลอนประจำบ้าน
 
คะแนนกลอนของผู้นี้ 11
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 19
"ไฟใดไม่ร้อนเท่าไฟในจิต"
|
 |
« เมื่อ: 12 ตุลาคม 2011, 09:16:PM » |
|
นขณะที่.... ผมก็เป็นเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วๆ ไป เรียน เที่ยว นอน กิน ดึกๆ ผมก็โทรคุยกับแฟนของผม ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้มันก็เป็นกิจวัตรประจำวันของผม และผมก็เชื่อว่าใครๆ เค้าก็ทำแบบนี้กัน ' จ้า ตัวเอง วันนี้กินข้าวรื้อยาง ' ' กินกับอะไรบ้าง แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้ามั้ยเนี่ย ' ' รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย เค้าอยากเป็นกระสือที่รักจะได้เห็นใจไง ' ' ตัวเองวางก่อนดิ ก่อนดิ ' ประโยคต่างๆ ที่ผมได้คิดและคัดสรรเตรียมพร้อมมาต่างๆ ก่อนโทร ผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ตอนดึกไปกับการคุยโทรศัพท์ ระยะเวลาอันผมได้ใช้ไปในแต่ละครั้งนั้น พอรู้สึกอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่ผมก็ไม่ชอบนะ หากใครจะมาว่าผมไร้สาระ ก็ไม่เห็นหรอคนส่วนใหญ่เค้าก็ทำกัน ' เอ้อ เกือบลืมไปอีกอย่าง กิจวัตรอีกอย่างนึงของผมก็คือ แม่ของผมมักชอบโทรหาผมทุกวัน ' ' ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง ' ' เย็นนี้กินข้าวอิ่มมั้ย ' ' วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง ' ' อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ ' โธ่!คำถามเดิมๆ ผมก็ตอบไปแบบเดิมๆ แม่ผมก็ไม่เบื่อซักที ยังคงโทรหาผมเป็นประจำ โชคดีที่ผมพยายามตัดบทคุย ผมกับแม่น่ะคุยกันไม่กี่นาทีก็วางแล้ว ก็มันไม่มีอะไรจะคุยจะให้ผมทำยังไง จนกระทั่งวันนั้น ' ตัวเองตอบเค้าได้รึยังว่ารักเค้ามั้ย ' ' เร็วๆสิ เค้ายังอุฒส่าห์บอกรักตัวเองไปแล้วนะ ' ' แล้วยังจะใจร้ายไม่บอกรักเค้าอีกหรอ ' ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงจากโทรศัพท์บอกผมว่ามีสายซ้อน ผมมองไปที่หน้าจอมันขึ้นชื่อว่า 'Home' ' โธ่ แม่โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย ' ผมไม่สลับสายผม ผมยังคงคุยกับสุดที่รักของผมต่อไป เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่แม่จะคุยกับผมก็คงเป็นประโยคเดิมๆ ' และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้าย ที่ผมจะมีโอกาสฟังเสียงของแม่ ' หลังจากนั้นไม่นานทางญาติของผมโทรมาแจ้งผมว่า เมื่อคืนนี้บ้านของผมถูกขโมยเข้า และแม่ของผมขัดขืน และได้ต่อสู้กับโจร จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง แม่เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ญาติของผมเล่าอีกว่าตอนไปพบศพแม่นั้น ในมือของแม่กำโทรศัพท์ไว้แน่น และเบอร์โทรออกล่าสุดของเธอไม่ใช่โทรแจ้งตำรวจ หรือเรียกรถพยาบาล แต่แม่เลือกที่จะโทรหา ' ผม ' สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่ผมเลือกที่จะทำคือ โทรศัพท์หาผมเพื่อฟังเสียงของผม วินาทีนั้นน้ำตาของผมไหลอาบแก้ม ผมพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของผมสั่น วันนั้นผมเลือกที่จะคุยกับแฟนผม ดีกว่าที่จะคุยกับแม่ของผม ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่คุยกับผมเป็นคนแรกในชีวิต ผู้หญิงคนเดียวที่ผม สามารถที่จะคุยกับเธอได้ทุกเวลา โดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่ ไม่ต้องมีมุข ไม่ต้องมีคำหวานใดๆ คนเดียวในโลก ที่โทรมาหาผมเพียงแค่ฟังผมพูดประโยคเดิมๆ คนเดียวในโลก ที่ไม่ว่าโทรศัพท์เธอจะโปรโมชั่นแพงแค่ไหนก็ยังโทรหาผม ' และ คนเดียวในโลก ที่เลือกคุยกับผมในวินาทีสุดท้ายในชีวิต ' ในบางครั้งประโยคที่ว่า ' ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดที่จะแก้ตัว ' มันก็ไม่เป็นความจริง ' เพราะบางปรากฏการณ์ในโลก เกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว ' อาจเป็นเพราะเวรกรรมของผม หลังจากนั้นไม่นานแฟนผมที่ผมใช้เวลาคุยกับเธอวันหลายๆ ชั่วโมงก็ทิ้งผมไป วันนี้ผมเริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น หลายๆ อย่างที่คนส่วนใหญ่ทำ มิได้หมายถึงสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป เพราะตัวเราเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องรับผลการกระทำของเราเอง ' เราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญ ก็ต่อเมื่อเราต้องเสียมันไป ' ทุกวันนี้ผมนั่งมองโทรศัพท์ รอที่จะตอบคำถามเดิมๆ ให้ผู้หญิงคนหนึ่งฟัง แต่ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มีอีกแล้ว
' ในเมื่อเรามีความรักอันเต็มเปี่ยมจากครอบครัว แล้วทำไมต้องไปขอเศษเสี้ยวจากใคร '
|
|
|
|