วณิพกคนชื่อสองท่องไปทั่ว
เฝ้าขอทานเลี้ยงตัวมืดมัวต่อ
ไปหลายเมือง ยากไร้หาไม่พอ
แม้จะท้อก็อุตส่าห์พากายเดิน
พเนจรร่อนเร่เทใจสู้
เมื่อชีพอยู่จำดิ้นรนทนขัดเขิน
ท้องอิ่มบ้างหิวบ้างต่างเผชิญ
อย่างนานเนิ่นสู้ไปแม้ไร้ทาง
แล้วสู่เมืองเกรียงไกรในวันหนึ่ง
ทำหูผึ่งยินประชามาเล่าอ้าง
ถึงเรื่องราวราชาหาสตางค์
แล้วก้าวย่างสู่กษัตริย์ขัติยา
ถามชื่อเสียงเก่าก่อนตอนมาใหม่
ชื่ออะไรก่อนเป็นเช่นดั่งว่า
ผู้คนเผยเอยบอกออกมา
ชื่อบุญหลายกษัตราท่านเคยใช้
แสนยินดีที่รู้เพื่อนอยู่นี่
ได้ดิบดีบุญทับกลับเป็นใหญ่
จึงอยากพบอยากเห็นความเป็นไป
สองจึงได้บอกทหารที่ผ่านเจอ
"ทหารกล้า ข้าขอต่อท่านอย่าง
ช่วยข้าบ้าง ได้ไหมใคร่เสนอ
พระราชา พระองค์นี้ที่เลิศเลอ
ฉันเป็นเพื่อนของเธอไม่เจอนาน
เคยร่วมกันพเนจรร่วมร่อนเร่
เที่ยวเตล็ดเตร่หากินทั่วถิ่นฐาน
เป็นเพื่อนรักกันพอร่วมขอทาน
ฉันต้องการพบพระองค์จงช่วยที"
ฝ่ายทหารชาญชัยเมื่อได้รู้
เฝ้าคิดดูใคร่ครวญอย่างถ้วนถี่
"ฉันจะเข้ากราบทูลให้อย่างดี
ท่านอยู่นี่รอก่อนอย่าห่อนไกล"
ท้องพระโรงโถงโต รโหฐาน
ได้มีการประชุมอำมาตย์ใหญ่
ด้วยหลากเรื่องเรืองรองของกรุงไกร
อำมาตย์ได้ทูลถึงชายสหายพระองค์
พระราชาได้ฟังนั่งตรองตรึก
ได้ระลึกถึงเพื่อนเหมือนประสงค์
อยากพบเจอเกลอเก่าเขาคงงง
เราดำรงยศศักดิ์กษัตรา
จึงเสียงก้องร้องสั่งเสียงดังลั่น
"ไปเอาตัวมาพลันนั่นเพื่อนข้าฯ
เป็นวนิพกร่วมกันแต่นานมา
อย่าพูดพร่ำนำพาพบข้าฯที"
ฝ่ายเสนาหาทหารสั่งการด่วน
จงไปชวนวนิพกวกมานี่
รีบไปนะพระองค์คงยินดี
ที่ได้มีสหายเก่าเข้ามาเยือน
ส่วนเจ้าสองนั่งรอขอเข้าเฝ้า
ตั้งแต่เช้าจรดบ่ายหมายพบเพื่อน
หทารมาพาไปในโรงเรือน
รีบคล้อยเคลื่อนจ้ำไปใจเต้นรัว
ใจคอสั่นหวั่นไหวใจเต้นถี่
เพื่อนเรานี่บุญหนักศักดิ์ท่วมหัว
เราบุญน้อยวาสนาพานึกกลัว
ถึงพระโรงย่อตัวลงกราบกราน
"กราบพระองค์ทรงศักดิ์ บุญหนักหนา
ที่ตัวข้าฯเคยเป็นเพื่อนพระองค์ท่าน
จากกันไกลไม่เห็นก็เป็นนาน
บุญประทานให้พบประสบกัน"
ฝ่ายกษัตริย์ขัติยาปัญญาเลิศ
เห็นเพื่อนเก่าก็เกิดความสุขสันต์
เห็นเพื่อนมีสัมมาคารวะนั้น
ใจตื้นตันยินดีที่เพื่อนมา
จึงตรัสคำร่ำถามความครั้งก่อน
ถึงเมื่อตอนจากกันหลายพรรษา
ท่านไปไหนได้ทุกข์ซุกอุรา
หรือเริ่งร่าระหว่างทางนั้นอย่างไร
ฝ่ายเจ้าสองตรองตรึกนึกแล้วตอบ
"ข้าฯนี้ชอบมีทุกข์สุขมิได้
เดินรอนแรมแถมเพลียระเหี่ยใจ
ชีวิตไม่เห็นดีมีบุญนำ
จนมาพบเมืองนี้ที่สมบูรณ์
ทรัพย์เพิ่มพูนถั่วหน้าประชาพร่ำ
เขากล่าวถึงพระองค์ดำรงธรรม
ได้มาค้ำเมืองไว้ให้เจริญ
ข้าฯจึงรู้จึงเห็นว่าเป็นท่าน
จึงไหว้วานทหารกล้ามากล่าวเอิ้น
ว่า ข้าฯน้อยด้อยวาสนามาบังเอิญ
พบเพื่อนเก่าเคยเดินร่วมขอทาน"
ฝ่ายบุญหลายสหายเก่าเฝ้าพินิจ
เพื่อนคนนี้ไม่มีพิษคิดสงสาร
จึงเรียกเจ้าเสนามาสั่งการ
"จงหาบ้านหาเรือนให้เพื่อนเรา
แล้วให้เป็นเสนามาช่วยคิด
คอยใกล้ชิดกษัตราหมั่นมาเฝ้า
งานหนักงานไหนให้แบ่งเบา
แบ่งให้เขาบริหารช่วยบ้านเมือง"
สล่าผิน
ยังมีอีกครับ รออ่านตอนต่อไปครับ