สายลมพลิ้วผ่านฟ้ามาแผ่วแผ่ว
หูเคยแว่วเสียงใจใครมาหา
ฝากลอยกับสายลมพรมพัดพา
พัดดอกหญ้าแกว่งไกวไหวล้อลม
หัวใจจึงแกว่งไกวคล้ายดอกหญ้า
เพราะแรงแห่งเสน่หามาผสม
เสียงอ้อนของแมกไม้ไล่ตรอมตรม
ลอยอารมณ์รื่นรสบทกวี
ลิ่วล่องไปมุมโลกเสี่ยงโชคเคราะห์
สายรุ้งเกาะขอบฟ้าพาสุขศรี
ใครเคยมุ่งไต่รุ้งพุ่งเมฆี
หวังพบที่ปลายรุ้งมุ่งสู่รัก
ฟังนกร้องเพลงหวานประสานเสียง
ใจเราเคียงคลอคู่รู้ตระหนัก
คำพูดเป็นนัยนัยยิ่งใหญ่นัก
คือแหล่งพักใจฝันรอวันเจอ
แม้มุ่งมั่นก้าวย่างไปข้างหน้า
วันเวลาแย่งดวงใจไปเสมอ
ต้องสูญเสียอย่างยิ่งถูกชิงเธอ
เพราะความเผลอจึงพลาดหวังขาดลอย
ฟังเสียงใบไม้หล่นบนพื้นหญ้า
ทอดสายตาเคว้งคว้างอย่างเหงาหงอย
พอได้อ่านบทกวีที่เฝ้าคอย
แขนเสื้อพลอยชุ่มฉ่ำด้วยน้ำตา
ดาว อาชาไนย