ชื่อบทกลอน : มากกว่าลานอักษร
ผู้แต่ง : บัณฑิตเมืองสิงห์
ผู้แต่ง : บัณฑิตเมืองสิงห์
ผ่านหนึ่งศกศักราชไม่คาดคิด
ว่าชีวิตทิศทางข้างภาษา
จักดำเนินเกินหวังดังจิตตา
รู้คุณค่าคำพจน์บทกวี
ครั้งหนึ่งเคาะประตูอยู่ริมรั้ว
ก็เกิดกลัวหัวใจไม่อาจหนี
เพราะอยากเรียนเพียรกานท์ผ่านฤดี
กลอนวจีจารร้อยด้วยถ้อยความ
เพื่อนร่วมบ้านลานกลอนสอนเสร็จสรรพ
มิต้องย้ำกำชับกับคำถาม
ฉันทลักษณ์จักเป็นเห็นว่างาม
จงร้อยตามตรึงตราภาษาไทย
หากวันเหงาเศร้าหมองอย่ามองลบ
ยังประสบพบมิตรจิตแจ่มใส
แต่งกลอนเล่นเช่นนั้นผลัดกันไป
ด้วยหัวใจในรจน์ทุกบทตอน
มากสหายหลายผู้วิญญูเพื่อน
คอยตักเตือนติติงสิ่งผิดสอน
ให้บังเกิดเลิศรสทุกบทกลอน
ค่าขจรอักษรสวยด้วยคำกานท์
จึงเชิญชวนครวญคิดพินิจว่า
รจนาพาทีเป็นศรีสาส์น
หากใช้เป็นเห็นคุณหนุนชั่วกาล
จึงชำนาญการเขียนเพียรร้อยกรอง
ว่าชีวิตทิศทางข้างภาษา
จักดำเนินเกินหวังดังจิตตา
รู้คุณค่าคำพจน์บทกวี
ครั้งหนึ่งเคาะประตูอยู่ริมรั้ว
ก็เกิดกลัวหัวใจไม่อาจหนี
เพราะอยากเรียนเพียรกานท์ผ่านฤดี
กลอนวจีจารร้อยด้วยถ้อยความ
เพื่อนร่วมบ้านลานกลอนสอนเสร็จสรรพ
มิต้องย้ำกำชับกับคำถาม
ฉันทลักษณ์จักเป็นเห็นว่างาม
จงร้อยตามตรึงตราภาษาไทย
หากวันเหงาเศร้าหมองอย่ามองลบ
ยังประสบพบมิตรจิตแจ่มใส
แต่งกลอนเล่นเช่นนั้นผลัดกันไป
ด้วยหัวใจในรจน์ทุกบทตอน
มากสหายหลายผู้วิญญูเพื่อน
คอยตักเตือนติติงสิ่งผิดสอน
ให้บังเกิดเลิศรสทุกบทกลอน
ค่าขจรอักษรสวยด้วยคำกานท์
จึงเชิญชวนครวญคิดพินิจว่า
รจนาพาทีเป็นศรีสาส์น
หากใช้เป็นเห็นคุณหนุนชั่วกาล
จึงชำนาญการเขียนเพียรร้อยกรอง
บัณฑิตเมืองสิงห์