ยามค่ำคืนในฤดู
ลมพรูพลิ้ว เสียงใบไม้ไหว
ดอกสีขาวร่วงหล่น
ค่ำคืนที่หนาวเย็นคืนหนึ่ง ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีเกือบมืดดำ
ดวงจันทร์และดวงดาวระยิบระยับเด่นตา
สายลมเหนือโชยมากับละอองฝน เรื่อยๆ เรื่อยๆ
ดอกมะลิปลิดขั้วหล่นลงพื้นดิน สามดอก สี่ดอก หลายดอก
เพ่งพิศก้มลงใกล้ๆ กลิ่นหอมเจือจางละมุน แม้หลับตาเงยหน้าจากมา
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทั้งหมด ได้ประมวลขี้นเป็นภาพพจน์ยามค่ำคืนในฤดู
ที่ทั้งเปล่าเปลี่ยวเงียบเหงา ทั้งเศร้าสร้อย
เหมือนช่วงเวลาแห่งชีวิตกำลังจะเลือนหายไป
แต่ในท่ามกลางความเงียบเหงานั้น ก็ยังมีบางสิ่งบางอย่างที่อบอุ่น
ในความเศร้า ก็ยังมีบางสิ่งที่เป็นความสุขอย่างลึกๆ อยู่ภายใน
นี่คือความรู้สึกที่เข้าใจยากยิ่ง ของหัวใจมนุษย์
อึ่งเอย เธอก็เช่นกัน
ค่ำคืนคงจะยาวนาน
ค่ำคืน คงจะเงียบเหงา
ลมพรูพลิ้ว เสียงใบไม้ไหว
ดอกสีขาวร่วงหล่น
ค่ำคืนที่หนาวเย็นคืนหนึ่ง ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีเกือบมืดดำ
ดวงจันทร์และดวงดาวระยิบระยับเด่นตา
สายลมเหนือโชยมากับละอองฝน เรื่อยๆ เรื่อยๆ
ดอกมะลิปลิดขั้วหล่นลงพื้นดิน สามดอก สี่ดอก หลายดอก
เพ่งพิศก้มลงใกล้ๆ กลิ่นหอมเจือจางละมุน แม้หลับตาเงยหน้าจากมา
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทั้งหมด ได้ประมวลขี้นเป็นภาพพจน์ยามค่ำคืนในฤดู
ที่ทั้งเปล่าเปลี่ยวเงียบเหงา ทั้งเศร้าสร้อย
เหมือนช่วงเวลาแห่งชีวิตกำลังจะเลือนหายไป
แต่ในท่ามกลางความเงียบเหงานั้น ก็ยังมีบางสิ่งบางอย่างที่อบอุ่น
ในความเศร้า ก็ยังมีบางสิ่งที่เป็นความสุขอย่างลึกๆ อยู่ภายใน
นี่คือความรู้สึกที่เข้าใจยากยิ่ง ของหัวใจมนุษย์
อึ่งเอย เธอก็เช่นกัน
ค่ำคืนคงจะยาวนาน
ค่ำคืน คงจะเงียบเหงา
รัตติกาล
ปล.เป็นบทกวีแบบไฮกุที่ลองเขียนไว้นานแล้วค่ะ ซึ่งบทกวีแนวนี้ถ้าบันทึกด้วยลายมือเรา จะยิ่งสัมผัสได้ถึงความเป็นปัจเจกของ
แนวกวีไฮกุได้ดี เพราะไม่ยึดติดแบบแผน ไม่มีข้อจำกัด เป็นธรรมชาติและเรียบง่ายตรงความรู้สึกได้ลึกซึ้งถึงสัจจะธรรม อาจ
ไม่ค่อยไพเราะและสวยงามนัก แต่ก็เคยเป็นอารมณ์ความรู้สึกในช่วงเวลาที่ผ่านมา และก่อนจะฝากไว้ตรงนี้ ก็ได้แก้ไขบาง
ประโยคที่ไฮกุจ๋าเกินไป
และเพื่อให้สอดคล้องกับโพสต์เปิดกระทู้ จึงเปลี่ยนพระเอกจากคุณเห็บ เป็นคุณอึ่งแทนค่ะ