เพิ่งรู้เหรอ..ว่า “เหงา” เข้าซุกร่าง
ยามเหินห่างเดียวดายคลายสุขสันต์
เพิ่งรู้เหรอ..ยามจาก มากรำพัน
ความอัดอั้นนั้นข่มตรมอุรา
ส่วนฉันรู้ตั้งนานสานสดับ
ไม่ซึมซับน้ำใจ..ใครห่วงหา
ไม่รู้ร้อนรู้หนาวคราวลับลา
ไร้เสน่หา..อื่นใด ไม่ชื่นชม
เกิดความ “เหงา” ตัวเราคือผู้รับ
รื่น, ชื่นพับ กลับแล แต่ขื่นขม
เห็นคนอื่นสดใสในภิรมย์
ส่วนตัวเรา..เหงาบ่ม...เกินข่มใจ
อยากหาย “เหงา” ถอดวาง หลีกทาง “เหงา”
นั่งทบทวน เรื่องเก่า เฝ้าขานไข
ที่ผ่านมา..หวานหาย..ละลายไป
เกิดจากใคร...ตัวเรา...หรือเขาทำ...?
ยามเหินห่างเดียวดายคลายสุขสันต์
เพิ่งรู้เหรอ..ยามจาก มากรำพัน
ความอัดอั้นนั้นข่มตรมอุรา
ส่วนฉันรู้ตั้งนานสานสดับ
ไม่ซึมซับน้ำใจ..ใครห่วงหา
ไม่รู้ร้อนรู้หนาวคราวลับลา
ไร้เสน่หา..อื่นใด ไม่ชื่นชม
เกิดความ “เหงา” ตัวเราคือผู้รับ
รื่น, ชื่นพับ กลับแล แต่ขื่นขม
เห็นคนอื่นสดใสในภิรมย์
ส่วนตัวเรา..เหงาบ่ม...เกินข่มใจ
อยากหาย “เหงา” ถอดวาง หลีกทาง “เหงา”
นั่งทบทวน เรื่องเก่า เฝ้าขานไข
ที่ผ่านมา..หวานหาย..ละลายไป
เกิดจากใคร...ตัวเรา...หรือเขาทำ...?
"บ้านริมโขง"
เพิ่งเคยลิ้มชิมรสบทบาทเหงา
เพิ่งเคยขีดเขียนความเศร้าเล่าลึกล้ำ
เพิ่งเคยลองมองห่วงบ่วงบาปกรรม
เพื่งเคยรู้รักจดจำตรากตรำยอม
เพิ่งเคยเห็นเป็นเชกเฉกเขาว่า
เพิ่งเคยพบต้องพรากหน้าครามิพร้อม
เพิ่งเคยใช่คำว่ารักจักต้องตรอม
เพิ่มเคยดอมดมรักล้มลางเลือน
เพียงความเหงาความเศร้าเข้าแทนที่
เพียงขีดเขียนเพียรวจีที่คลาดเคลื่อน
เพียงเลี้ยวมองเสี้ยวบ่วงห่วงกรรมเยือน
เพียงมาเตือนตนให้ใจยอมทน
เพียงปากว่าหากไม่พบคบไม่รู้
เพียงจากหายคล้ายมีอยู่ทุกแห่งหน
เพียงความรักที่เกิดขึ้นในบันดล
เพียงหมองหม่นหมองเศร้าเหงาบันดาล
หทัยกาญจน์