เป็นดาวดายฉายเดี่ยวอย่างเปลี่ยวเปล่า
อยู่กลางหาวเคว้งคว้างบางคราวแจ่ม
ยามเมื่อเดือนเกี่ยวหาวราวข้างแรม
ดาวได้แซมแจมเดือนเป็นเพื่อนกัน
ถูกคนเล็งเพ่งมองกล้องเก่าเก่า
เปื้อนเขม่ารมเขรอะด้วยเปรอะฝัน
กลัวยิงพลาดกราดเกรี้ยวถูกเสี้ยวจันทร์
ดาวคงหวั่นสั่นสะทกจนตกดิน
อยู่ไกลกันไม่รู้หมู่หรือจ่า
เกรงวาจาทักทายแล้วหายสิ้น
มาหยิกหยอกให้ขวยใจรวยริน
พอดาวอินเธอเอ้าท์ดาวระทม
เฝ้ามาหยอดกอดใจกลัวใครเหงา
เล็งเข้าเป้าเหนี่ยวไกกะให้สม
กวาดเรดาร์ค่าเรเดียนเผลอเปลี่ยนชม
ยิงปูพรมทุกองศาเสาะหาใคร
หนึ่งลิบดาหาพิกัดยังขัดสน
หาใจตนเรดาร์เปลี่ยนเวียนไฉน
ล็อคเป้านิ่งยิงแน่ยังแพ้ใจ
มุมอ่อนไหวพลาดเป้าคงเศร้านาน.
แซมนะคะ
บทกวีเจ้าไพเราะเสนาะนัก
พอพิงพักเคียงแอบแนบประสาน
เป็นเป้านิ่งให้เจ้าเยาวมาลย์
นิรันดร์กาลแห่งกลอนจะนอนรอ
แม้เส้นรุ้งเส้นแวงเราแตกต่าง
จะเก็บเป็นแบบอย่างการร้องขอ
ถึงวันที่สองเสียงได้เคียงคลอ
คงจะพอต่อคำได้ฉ่ำใจ
พอพิงพักเคียงแอบแนบประสาน
เป็นเป้านิ่งให้เจ้าเยาวมาลย์
นิรันดร์กาลแห่งกลอนจะนอนรอ
แม้เส้นรุ้งเส้นแวงเราแตกต่าง
จะเก็บเป็นแบบอย่างการร้องขอ
ถึงวันที่สองเสียงได้เคียงคลอ
คงจะพอต่อคำได้ฉ่ำใจ