"ขอวิงวอนพรพรหมจากฟากฟ้า
ให้โปรดมานิรมิตลิขิตฉัน
ให้โง่บ้าบอดใบ้ในชีวัน
อย่าให้ฉันพานพบความสุขใจ
ให้แผ่นพื้นรอบกายคล้ายนรก
สกปรกโสมมจมหม่นไหม้
ทั้งกายาราวร้อนด้วยฟอนไฟ
เผาฤทัยให้อนาถวาตม์ชีวา
หมื่นความหมายหลากหลายในความคิด
สุจริตอย่าได้ให้ปรารถนา
ให้บาปเวรเคี่ยวเข็ญในอุรา
ตัดภาษาเลือนร้างห่างจากใจ"
"แต่พระพรหมท่านคงมิโปรดฉัน
กลับเสกสรรพร่างแพร้วพิศุทธิ์ใส
มีสติดำริรู้อยู่กว้างไกล
ให้สุขใจจนปลื้มจนลืมกาย
สรวงสวรรค์รอบกายภายในโลก
ฤๅจักโศกซาบซึ้งถึงความหมาย
ด้วยมีเธอคนนั้นเคียงข้างกาย
จึงมากมายเปี่ยมล้นดวงฤดี
และรายล้อมร่วมใจในความรัก
แน่ตระหนักความหมายบริสุทธิ์ศรี
ณ.ดินแดนแว่นแคว้นบทกวี
ที่ตรงนี้สดชื่นรื่นอารมณ์"
"อนาถแท้แค่เพียงชั่วครั้งครู่
ฉันก็รู้เธอก็รู้ความขื่นขม
เพียงแค่รักปักใจได้ชื่นชม
ตามอารมณ์พัดพาประสาใจ
เสียแล้วเอยดวงใจได้ไหม้หม่น
เกินจะทนแล้วหนอจะไม่ไหว
ขอความทุกข์แล้วให้สุขฉันทำไม
เหตุไฉนฟากฟ้าไม่ปรานี
ถ้ากมลทุกข์ทนจนหม่นไหม้
คงไม่ร้าวรานใจขนาดนี้
เคยมีรักเพียงแต่แค่เคยมี
เหตุฉะนี้เพราะอะไรฤทัยเอย"
สิตางศุ์
๑๓๐๙๒๕๕๔
[/color]ให้โปรดมานิรมิตลิขิตฉัน
ให้โง่บ้าบอดใบ้ในชีวัน
อย่าให้ฉันพานพบความสุขใจ
ให้แผ่นพื้นรอบกายคล้ายนรก
สกปรกโสมมจมหม่นไหม้
ทั้งกายาราวร้อนด้วยฟอนไฟ
เผาฤทัยให้อนาถวาตม์ชีวา
หมื่นความหมายหลากหลายในความคิด
สุจริตอย่าได้ให้ปรารถนา
ให้บาปเวรเคี่ยวเข็ญในอุรา
ตัดภาษาเลือนร้างห่างจากใจ"
"แต่พระพรหมท่านคงมิโปรดฉัน
กลับเสกสรรพร่างแพร้วพิศุทธิ์ใส
มีสติดำริรู้อยู่กว้างไกล
ให้สุขใจจนปลื้มจนลืมกาย
สรวงสวรรค์รอบกายภายในโลก
ฤๅจักโศกซาบซึ้งถึงความหมาย
ด้วยมีเธอคนนั้นเคียงข้างกาย
จึงมากมายเปี่ยมล้นดวงฤดี
และรายล้อมร่วมใจในความรัก
แน่ตระหนักความหมายบริสุทธิ์ศรี
ณ.ดินแดนแว่นแคว้นบทกวี
ที่ตรงนี้สดชื่นรื่นอารมณ์"
"อนาถแท้แค่เพียงชั่วครั้งครู่
ฉันก็รู้เธอก็รู้ความขื่นขม
เพียงแค่รักปักใจได้ชื่นชม
ตามอารมณ์พัดพาประสาใจ
เสียแล้วเอยดวงใจได้ไหม้หม่น
เกินจะทนแล้วหนอจะไม่ไหว
ขอความทุกข์แล้วให้สุขฉันทำไม
เหตุไฉนฟากฟ้าไม่ปรานี
ถ้ากมลทุกข์ทนจนหม่นไหม้
คงไม่ร้าวรานใจขนาดนี้
เคยมีรักเพียงแต่แค่เคยมี
เหตุฉะนี้เพราะอะไรฤทัยเอย"
สิตางศุ์
๑๓๐๙๒๕๕๔