อยากมีคน คอยห่วงใย
รำพึงพ้อ ต่อฟ้า คราหม่นไหม้
จากถิ่นไพรดั้นด้น ทนฟันฝ่า
ถูกลิขิต ปิดกั้น ฝันเลือนลา
ดุจไร้ค่า กว่าธุลี ที่จมดิน
เพียงเดียวดาย อดสู สู้ชีวิต
ด้วยดวงจิตอ่อนไหว ใจแทบสิ้น
น้ำตาหลั่ง ทุกข์ตรม ขมชีวิน
ดั่งวิหค ผกผิน บินคร่ำครวญ
ด้วยเดียวดาย ขื่นขม ที่ถมถา
เป็นปักษา หลงถิ่น บินไห้หวน
หนาวน้ำค้างพร่างพรม เมื่อลมทวน
ยิ่งรัญจวน เกินเก็บ หนาวเหน็บใจ
โศกสะท้าน ทรวงใน ฤทัยหม่น
ยามป่วยไข้ ไร้คน คอยชิดใกล้
มา ดูแล ห่วงหา มิลาไกล
ร้าวทรวงใน เจ็บช้ำ ต้องกล้ำกลืน
แม้แต่เงา เคยคู่ เหมือนอยู่ห่าง
บนเส้นทาง เดินไป คลับคล้ายฝืน
ประคองใจ เจ็บช้ำ ทุกค่ำคืน
เสียงสะอื้น คลอเคล้า เฝ้ารำพัน
ยามเช้าใหม่หมอกมาสู่ฟ้ากว้าง
ปลายเส้นทาง สร้างก่อ ยังรอฝัน
อยากมีใคร โอบกอด พลอดรำพัน
ให้โศกศัลย์ ชีวิน ...นั้นสิ้นลง
มองออกไป ฟากฟ้า เพื่อหาเพื่อน
ที่มาเยือน ดั่งใจ ใฝ่ประสงค์
ด้วยความหวัง ตั้งไว้ ไม่ปิดปลง
ฟ้าอาจส่ง คนใช่ มาใกล้เคียง
ความเหว่ว้า ติดบ่วง ทรวงสะท้อน
ต้องร้าวรอน นอนตรม ข่มซุ่มเสียง-
สะอื้นไห้ เกลื่อนกลบ ลบสำเนียง
คงมีเพียง ใจเหงา ที่เฝ้าคอย...
"สุนันยา"